xs
xsm
sm
md
lg

คนเชียงใหม่สมัครกว่าหมื่น จิตอาสาพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่/พะเยา - ชาวเชียงใหม่ลงทะเบียนเป็นจิตอาสาในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.๙ กว่าหมื่นคนแล้ว มีตั้งแต่เด็ก 5 ขวบ-พ่ออุ้ยแม่อุ้ยอายุกว่า 80 ปี ขณะที่ชาวพะเยา ปลูกดาวเรืองล้านดวงแปรอักษร “น้อมเกล้าส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย”

นายปรีชา ศิรินาม ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มีประชาชนมาลงทะเบียนเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา พร้อมกับทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

เฉพาะ อ.เมืองเชียงใหม่ รวมยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1-8 ก.ย.มีมากกว่า 800 คนแล้ว มีทั้งเด็กอายุต่ำสุด 5 ขวบ และอายุมากสุดกว่า 80 ปี ส่วนยอดรวมของเชียงใหม่ ทั้ง 25 อำเภอ ขณะนี้มีมากกว่า 1 หมื่นคนแล้ว

ส่วนที่พะเยา ได้มีการนำงบโครงการ 9101 ดำเนินโครงการ “ล้านดาวเรืองเมืองพะเยา น้อมเกล้าส่งส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” ปลูกดาวเรืองเป็นรูปเลข ๙ บริเวณภูทรัพย์ฟาร์ม บ้านเปื๋อยเปียง หมู่ที่ 14 ต.หย่วน อ.เชียงคำ เพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน

นายภูทรัพย์ ศุภนาถเกรียงไกร เจ้าของกิจการภูทรัพย์ฟาร์ม กล่าวว่า เป็นการปลูกดอกดาวเรือง ทั้งหมดราว 80,000 ต้น บนที่รวมกว่า 60 ไร่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 แปลง แปลงแรกจะเป็นอักษร “ล้านดาวเรืองเมืองพะเยา” โดยมีตัวเลขโครงการ 9101 อยู่ด้านบนตัวอักษร แปลงที่ 2 จะเป็นอักษร “น้อมเกล้าส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” ส่วนแปลงที่ 3 จะเป็นตัวเลข ๙ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการแรกของประเทศ และถ้าดอกออกบานพร้อมกันก็จะมีราว 4-5 ล้านดอก เข้ากับโครงการล้านดาวเรืองเมืองพะเยา น้อมเกล้าส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

นอกจากนี้ ดาวเรืองที่ได้จะแบ่งให้ทางจังหวัด 10,000 ต้น ต.หย่วน อ.เชียงคำ 5,000 ต้น และส่วนหนึ่งใช้ในหมู่บ้านเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีเป็นหมู่บ้านสีเหลือง

นายภูทรัพย์ บอกอีกว่า สำหรับที่ดินตรงนี้เดิมเกษตรกรใช้ปลูกผัก แล้วหันมาปลูกดอกดาวเรืองเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน หลังจากเสร็จพิธีแล้วก็จะทำต่อ โดยจะแบ่งเป็น 2 โซน โซนหนึ่ง ถ้ามองว่าดอกดาวเรืองพอที่จะเลี้ยงชีพได้เราจะทำต่อเนื่อง ส่วนที่เหลือก็จะปลูกผักต่อ เพื่อเป็นรายได้ต่อเนื่องที่ยั่งยืนของภาคเกษตรที่ได้รับมาจากโครงการ 9101

“อันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเกษตรอย่างเดียว สิ่งที่เราได้ตามมาคือ ต่อไปที่นี่จะเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยว เราคาดหวังว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้า พะเยา จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากต่างแดนเข้ามา เอากำลังซื้อจากภายนอกเข้ามาได้ เพราะเราได้เปรียบคือ อยู่ใกล้ชายแดน เราจะเชื่อม AEC ไม่ว่าจะเป็นพม่า ลาว จีน ข้ามมาตรงนี้ก็จะเจอแหล่งท่องเที่ยวรองรับเลย”













กำลังโหลดความคิดเห็น