แม่ฮ่องสอน - ชาวบ้านขุนยวมพื้นที่ติดชายแดนพม่าผวาหนัก หลังพบเสือโคร่งขนาดใหญ่ออกหาเหยื่อกินวัวที่เลี้ยงไว้ไปหลายตัว เผยต้องเพิ่มความระมัดระวังและไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงไปหากินไกลหมู่บ้าน
รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนแจ้งว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา นายวีรชัย กอบวิเชียร กำนันตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากนางหน่อยา ชวนชมชื่น อายุ 58 ปี ราษฎรบ้านพะโท หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กิ๊ ว่าตนมีวัวอยู่ 10 ตัว ได้ปล่อยให้ไปหากินหญ้าตามธรรมชาติในป่า ในขณะที่ตนไปตามหาวัวเพื่อจะไล่ต้อนกลับมายังบ้าน ปรากฏว่าวัวสองแม่ลูกได้หายไปไม่ได้มากับฝูงวัวดังกล่าว ตนไม่กล้าออกตามหาสงสัยจะถูกเสือกัดกินเนื่องจากว่าในป่าบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่กว้างและเป็นเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า)
ต่อมานายสมทรง บุญระชัยสวรรค์ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงหล้า และผู้นำชุมชนหมู่บ้านห้วยส้าน ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตามที่นางหน่อยา ชวนชมชื่น เจ้าของวัวได้มาแจ้งไว้ เนื่องจากมีเสือโคร่งอยู่หลายตัวออกมาเที่ยวหากินอยู่เป็นประจำ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2-5 กม.ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง
ขณะที่กำลังเดินตรวจสอบอยู่ได้พบซากวัวถูกเสือโคร่งกัดกินเหลือแต่กระดูกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ และยังพบร่องตีนเสือโคร่งตามต้นไม้ และรอยตีนเสือโคร่ง 1 จุด จากการสอบถามชาวบ้านพบว่าวัวถูกเสือโคร่งกินจำนวน 2 ตัว คือวัวแม่กับลูกวัวที่หายไป และเสือโคร่งมากินซากที่เหลือทุกวัน คาดว่าคงจะหนีกลับเข้าไปยังป่าลึกเขตประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ทางด้านนายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยเวียงหล้า กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เสือโคร่งตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก มักจะไปมาหากินอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-พม่า ช่วงบ้านพะโท ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ คาดว่าคงจะมีหลายตัว จึงอยากให้ผู้นำชุมชนในหมู่บ้านใกล้เคียงได้บอกกล่าวกับลูกบ้านของตนเองให้ระมัดระวังด้วย