ลำปาง - กระแสต้านเทศบาลฯลำปาง ส่อผลาญงบลามจากโซเชียลฯ ล่าสุด ชาวชุมชนกาดกองต้า ปงสนุก รวมตัวชูป้าย ล่าชื่อค้านทุบสะพานวัดเกาะ 200 ปี ขณะกลุ่มผู้ประกอบการรถม้าไม่เอาด้วย แผนทุบโรงยิมเทงบสร้างสถานีฯ พิพิธภัณฑ์รถม้า ชี้ไม่คุ้ม
กระแสคัดค้านเทศบาลนครลำปาง ชงเรื่องผ่านงบประมาณ 7 โครงการรวด รวมกว่า 710 ล้านบาท ซึ่ง 2 ใน 7 โครงการดังกล่าว คือ การทุบทิ้งสะพานรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี หรือสะพานวัดเกาะ แล้วสร้างใหม่ วงเงิน 17 ล้านบาท และทุบโรงยิม หรือศูนย์เยาวชนเทศบาลนครลำปาง สร้างศูนย์รวมสถานีรถม้าจังหวัดลำปาง พร้อมพิพิธภัณฑ์รถม้าฯ วงเงิน 14,000,000 บาท เริ่มขยายวงมากขึ้น หลังมีการวิจารณ์ผ่านโลกโซเชียลมีเดียมาต่อเนื่องหลายวัน
ล่าสุด ชาวบ้านของชุมชนกาดกองต้าเหนือ กาดกองต้าใต้ และปงสนุก ได้มารวมตัวกันที่สะพานวัดเกาะ เย็นวานนี้ (1 ก.ย.) พร้อมนำป้ายคัดค้านการทุบสะพานมาแขวนไว้บริเวณหัวสะพาน และแจกจ่ายไปยังจุดต่างๆ เพื่อแสดงจุดยืนของชาวบ้านในชุมชนว่า ไม่ต้องการให้ผู้บริหารเทศบาลนครลำปาง ทุบสะพานแห่งนี้
โดยระบุข้อความบนป้ายว่า “ชาวชุมชนการกองต้าเหนือ-ใต้ ขออนุรักษ์สะพานรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ปี ห้ามทุบ แต่ขอให้ปรับปรุงซ่อมแซมให้ดีขึ้น” พร้อมทั้งได้มีการล่ารายชื่อชาวบ้านทั้งสองฝั่งของสะพาน และประชาชนที่ใช้สะพานดังกล่าวสัญจรเป็นประจำที่ผ่านมา เพื่อคัดค้านโครงการ
ชาวบ้านระบุว่า สะพานแห่งนี้สร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้รถเล็ก และคนเดินเท้าปลอดภัยจากการใช้สะพานที่รถยนต์สัญจรไปมา โดยเฉพาะเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง จะใช้สะพานแห่งนี้จำนวนมาก จึงไม่เหมาะที่จะปรับขยายเพื่อให้รถยนต์มาวิ่งผ่าน เนื่องจากสะพานรัษฎา ซึ่งไม่ไกลกันมากก็สามารถขับรถผ่านได้อยู่แล้ว และบ้านเรือนของประชาชนก็อยู่ติดถนนที่เป็นซอยแคบ หากมีรถยนต์วิ่งผ่านเพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ และความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านได้
ที่สำคัญ คือ ซอยดังกล่าวมีความกว้างไม่ถึง 6 เมตร ตามที่นายกเทศมตรีนครลำปาง ได้ทำโครงการเสนองบประมาณเพื่อก่อสร้างใหม่ไว้ และสะพานดังกล่าวถือเป็นสะพานประวัติศาสตร์อีกหนึ่งแห่งของลำปาง ที่ควรอนุรักษ์ไว้ และควรปรับปรุงให้ดี-สวยงาม เป็นจุดขายของการท่องเที่ยว ซึ่งก็จะยั่งยืน อยู่กับวิถีชีวิตของชุมชนตลอดไป
ขณะที่ นายอัครินทร์ พิชญกุล นายกสมาคมรถม้าจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ถ้าเทศบาลฯ สร้างสถานีรถม้าขึ้นที่โรงยิมฯ ก็คงมีรถม้าไม่กี่คันที่จะเข้าไปจอด เพราะรถม้าไม่เหมือนกับรถสองแถว หรือรถบัสที่จะต้องมีสถานี แต่รถม้าที่อยู่มาได้กว่า 100 ปี คือ อยู่แบบวิถีรถม้า ปัจจุบันก็มีที่จอดกระจายตามจุดต่างๆ หลายจุด ซึ่งก็เหมาะสมอยู่แล้ว
เพราะรถม้าปัจจุบัน คือ ให้บริการการท่องเที่ยว ดังนั้น ต้องอยู่ใกล้ และพร้อมจะบริการนักท่องเที่ยวได้สะดวก บริเวณหน้าสำนักงานที่ดินที่จอดรถบัสของนักท่องเที่ยว หน้าโรงแรมต่างๆ ก็สะดวกอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างเหมือนสถานีรถ
“ตนเห็ว่าไม่คุ้มค่า ควรนำเงินกลับเข้าคลัง และทำโครงการใหม่ที่ใช้งบพอประมาณมาแค่ปรับปรุงสถานีที่มีอยู่ให้ดีขึ้น ให้ที่นั่งรอของนักท่องเที่ยวมีต้นไม้บังแดดสำหรับม้า บางจุดที่สามารถทำห้องน้ำได้ก็ทำเพียงแค่นี้รถม้าก็พอใจแล้ว”
ส่วนพิพิธภัณฑ์ฯ ปัจจุบันที่สมาคมรถม้านักท่องเที่ยวก็รู้จัก และมีพร้อมตามวิถีของรถม้า นักท่องเที่ยวมาก็เพื่อต้องการดูการทำรถม้า ซึ่งไม่มีการปรุงแต่ง การที่จะนำรถม้าไปไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่มัน ก็จะไม่ใช่รถม้าอีกต่อไป
“โรงยิมปัจจุบันก็เป็นที่สำหรับประชาชนใช้ประโยชน์อยู่แล้วไม่ควรทุบแล้วมาสร้างสถานีรถม้าเพราะไม่คุ้มค่า และชาวรถม้าก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้น”
ด้านชาวรถม้าก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากสร้างจริงก็คงไม่ไปอยู่แน่นอน เพราะรถม้าปัจจุบันมีอยู่หลายสาย หลายกลุ่มใกล้จุดไหนก็ไปจอดจุดนั้น และส่วนใหญ่ก็จะเลี่ยงไม่เข้าไปวิ่งถนนสายหลักมากนัก เพราะเรื่องการจราจร และจะหันมาวิ่งเส้นทางสายวัฒนธรรม และเลียบแม่น้ำแทน ดังนั้น หากนำไปรวมที่เดียวกลางเมือง คงมีปัญหาทั้งการจราจร และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
“ขออยู่แบบเดิมดีกว่า และหากต้องการพัฒนาก็ขอให้มาปรับปรุงสถานีรถม้าที่มีอยู่แล้วให้ใช้งานได้ และดีขึ้นก็พอ”