อุบลราชธานี - สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี เตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยงรับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ หลังพบ 5 จังหวัดอีสานใต้มีผู้ป่วยแล้วกว่า 4,600 คน จ.อุบลฯ มีผู้ป่วยมากที่สุด สำหรับสายพันธุ์เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบเป็นสายพันธุ์ประจำถิ่นมักเกิดในฤดูฝนและหนาวเพราะเชื้อเจริญเติบโตได้ดี
นายแพทย์ ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัดอีสานตอนล่าง พบผู้ป่วยแล้ว 4,649 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต และเมื่อเทียบกับอัตราป่วยช่วงเดียวกันของปี 2559 เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 18.23 เพราะปีนี้มีฝนตกชุกและฝนมาเร็ว จึงเอื้อให้เกิดการระบาดได้มากกว่าช่วงปกติ
โดยกลุ่มผู้ป่วยส่วนมากเป็นนักเรียนอายุ 5-14 ปี จำนวน 1,302 ราย รองลงมาเป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ จำนวน 1,247 ราย วัยรุ่น/นักศึกษาอายุระหว่าง 15-24 ปี จำนวน 548 ราย ส่วนเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบการระบาดในพื้นที่ สคร.เขต 10 เป็น Influenza A สายพันธุ์ H3 ส่วน influenza B ซึ่งก็เป็นเชื้อประจำถิ่นแต่จะพบในสัดส่วนที่น้อยกว่า Influenza A สายพันธุ์ H3
สำหรับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่นั้นพบมากในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว เพราะเชื้อเจริญเติบโตได้ดี โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 3,107 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 167.85 ต่อประชากรแสนคน โดยอำเภอวารินชำราบมีอัตราป่วยสูงสุด 465.12 ต่อประชากรแสนคน สูงเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ และเป็นอันดับ 2 ของภาคอีสาน รองลงมาเป็นจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดอำนาจเจริญ
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B นี้ แม้ไม่ทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงเหมือนไข้หวัดสายพันธุ์ A แต่กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังคือ คนที่ป่วยเป็นโรคปอด โรคหัวใจ เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ รวมทั้งคนท้อง และผู้สูงอายุ เพราะถ้าเกิดกับกลุ่มคนเหล่านี้โรคจะมีโอกาสรุนแรงได้มากกว่าคนปกติ
ส่วนสถานการณ์โรคตั้งแต่ 1 มกราคม-30 สิงหาคม 2560 ประเทศไทยพบผู้ป่วย 85,290 ราย เสียชีวิต 12 ราย แบ่งเป็น จ.นครราชสีมา 6 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ตาก 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย และอุดรธานี 1 ราย
จึงขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการเข้าสัมผัสกับผู้ป่วยเพื่อไม่ให้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในช่วงนี้ หากมีอาการป่วยหรือต้องสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่ควรไปพบแพทย์ใกล้บ้าน ไม่ปล่อยจนมีอาการป่วยรุนแรง