ติวเข้มผู้ประกอบการท่องเที่ยวอุดรฯ-หนองคายรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมโจร

อุดรธานี - ตำรวจท่องเที่ยวติวเข้มให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้ฝึกสังเกต จดจำ แจ้งเหตุ แจ้งเตือน เพื่อรู้ทันเหลี่ยมเล่ห์โจร เผยทั้งอุดรฯ-หนองคายมีนักท่องเที่ยว นักธุรกิจเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง เสี่ยงสูงเกิดการโจรกรรม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ห้องทุ่งศรีเมือง โรงแรมเซ็นทาราอุดรธานี พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดโครงการอบรมรณรงค์สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี และหนองคาย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ให้บริการในธุรกิจท่องเที่ยวพัฒนามาตรฐานในการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักเที่ยว

พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดใหญ่ๆ ในประเทศไทยนั้นมักมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะการเที่ยวชมธรรมชาติ เรียนรู้วัฒนธรรม หรือการเข้ามาจับจ่ายใช้สอย เช่นที่จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านคือ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง

ทำให้พวกอาชญากรเห็นโอกาสในการก่ออาชญากรรม เช่น การลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า หรือการหลอกลวงนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นและทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างมาก


พล.ต.ต.ประเสริฐกล่าวว่า ดังนั้นเพื่อลดและป้องกันการเกิดคดีอาชญากรรมดังกล่าว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้จัดอบรมภายใต้ “โครงการอบรมรณรงค์สร้างความเชื่อมั่นผู้ให้บริการในธุรกิจท่องเที่ยว ให้มีมาตรฐานในการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว”

โดยมีเป้าหมายที่จะกวาดล้าง ปราบปรามบุคคลที่มีพฤติการณ์ก่อคดีที่มีเป้าหมายต่อชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยว

หรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกง หลอกลวง เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ด้วยการแสวงหาความร่วมมือและยกระดับศักยภาพผู้ให้บริการและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย เพื่อให้สามารถสังเกตมิจฉาชีพที่เข้ามาก่อเหตุและวัตถุต้องสงสัยได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

“การอบรมครั้งนี้ต้องการให้ผู้ประกอบการรู้เท่าทันกลอุบายของโจรที่มักใช้ก่อเหตุตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสามารถวางระบบป้องกันที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนได้ รวมทั้งสามารถแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว และแจ้งเหตุแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างทันท่วงที” ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวกล่าว