บุรีรัมย์ - ผวาทั้งพ่อแม่และลูก หลังลูกสาว 9 ขวบถูกชายวัย 61 ปีคนบ้านเดียวกันหลอกอุ้มไปกลางป่าอ้อยแล้วบีบคอถอดเสื้อผ้า ใช้อวัยวะเพศพยายามสอดใส่แต่ไม่สำเร็จ โชคดีชาวบ้านมาพบช่วยทันคนร้ายตกใจวิ่งหนี ก่อนพาแจ้งความแต่ตำรวจกลับไม่รับดำเนินคดี แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 9 ขวบว่า ถูกชายอายุ 61 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน ล่อลวงลูกสาวไปกระทำการล่วงละเมิดกลางป่าอ้อยแต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดเนื่องจากเพื่อนที่ไปด้วยกันเห็นชาวบ้านแล้วเรียกขอความช่วยเหลือ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านโพธิ์ทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พบ นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กวัย 9 ขวบ เล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากลูกสาวรอดออกมาได้แล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุลูกสาวได้ไปเล่นกันที่วัดในหมู่บ้าน ซึ่งมีการจัดงาน มีเด็กวิ่งเล่นกันหลายคน
จากนั้นได้มี นายทอง (นามสมมติ) อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ชักชวนให้เด็กหญิง 2 คนไปเป็นเพื่อนอ้างว่าจะไปกดเงินในตัวอำเภอบ้านด่านซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 7 กิโลเมตร ลูกสาวกับเพื่อนวัยเดียวกันจึงติดสินใจไปด้วยเพราะนายทองหลอกว่าหากไปเป็นเพื่อนจะให้เงินคนละ 300 บาท ประกอบกับที่ผ่านมานายทองก็เคยพาลูกสาวไปเลี้ยงขนม และก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้านหลายครั้งเด็กจึงเกิดความไว้ใจ
จากนั้นนายทองได้ให้เด็กทั้งสองนั่งซ้อนท้ายจักรยานไปด้วยกันรวม 3 คน โดยปั่นลัดเลาะไปทางไร่อ้อย และพยายามจอดหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุนายทองได้จอดรถจักรยานข้างไร่อ้อย แล้วอุ้มลูกสาวไปในป่าอ้อยเพียงคนเดียว ทิ้งให้เพื่อนลูกสาวยืนรออยู่บนถนนซึ่งเป็นที่เปลี่ยว
ตามคำบอกเล่าของลูกสาวยังบอกว่า นายทองได้ถอดกางเกงลูกสาวออกทั้งหมดแล้วใช้มือบีบคอเอาไว้ และพยายามจะเอาอวัยวะเพศสอดใส่ กระทั่งได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนเรียกทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหนีไป จากนั้นลูกสาวก็ใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งมาหาชาวบ้านให้ช่วยเหลือ
จากการสอบถาม นายสุก ชัยรัมย์ อายุ 66 ปี ประธาน อสม.อำเภอบ้านด่าน ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ระหว่างนั้นตนได้ไปดูน้ำที่นาข้าว เห็นเด็กหญิง ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือว่า “ผู้ใหญ่ข่มขืนเด็ก ช่วยเพื่อนหนูด้วย” ตนเกรงผู้ก่อเหตุจะมีอาวุธ จึงใช้วิธีตะโกนเสียงดัง ทำให้ผู้ก่อเหตุตกใจวิ่งหนีไป ก่อนพาเด็กทั้งสองไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองมารับตัวเด็กทั้ง 2 คน
แม่เด็กยังเล่าอีกว่า จากนั้นผู้ก่อเหตุได้มาขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย ตอนแรกเกือบตอบตกลงเพราะลูกสาวปลอดภัย ประกอบกับไม่รู้กฎหมายว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายล่วงละเมิดหรือไม่ กระทั่งชาวบ้านบอกว่ามีความผิด จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านด่านเพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายทอง ผู้ก่อเหตุ
แต่ล่าสุดตำรวจยังไม่รับแจ้งความดำเนินคดี เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น สร้างความหวาดผวาให้แก่พ่อแม่เด็กเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กยังไม่กล้าไปโรงเรียนเพราะกลัวนายทองจะมาดักระหว่างทางและก่อเหตุซ้ำอีก