ตราด - ชลประทานตราด ลงพื้นที่ฝังท่อน้ำดิบ แจงถนนพังเพราะการใช้งาน ไม่ได้พังจากเครื่องจักร ติงสื่อทำข่าวคนเดือดร้อน ผู้เสียผลโยชน์แค่ 2% ชาวบ้านเดือด!! มาเจรจาหรือมาหาเรื่อง
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ซอยตกลุ้น ม.2 บ้านฆ้อ ต.วังตะเคียน อ.เขาสมิง จ.ตราด นายชัยกร ลุนทา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานตราด พร้อมประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านฆ้อ ต.วังตะเคียน และเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานตราด กว่า 20 คน พร้อมสื่อมวลชน ร่วมตรวจสอบถนนในซอยตกลุ้น หลังที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวความเดือดร้อนของประชาชนที่ใช้ถนนเส้นนี้ด้วยความยากลำบาก หลังผู้รับเหมานำเครื่องจักร และรถบรรทุกที่เข้ามาดำเนินการฝังท่อน้ำดิบ ของโครงการชนประทานตราด จนส่งผลให้ถนนได้รับความเสียหาย
ซึ่ง นายชัยกร ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนบริเวณจุดสิ้นสุดถนนคอนกรีต ว่า ถนนที่เสียหายไม่มีใครเดือดร้อนจากการทำโครงการฝังท่อน้ำดิบภายในซอย โดยให้ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านฆ้อ ยืนยันถึงถนนสายนี้เป็นหลุมมานานแล้ว ส่วนถนนปัจจุบัน ถนนที่พังเสียหายนั้นเกิดจากการใช้งาน ไม่ได้เกิดจากเครื่องจักร หรือรถบรรทุกอย่างใด แต่นายชัยกร ไม่ได้นำผู้เดือดร้อนจากการใช้ถนนเส้นนี้ร่วมรับฟังการชี้แจงพร้อมกับสื่อ และอ้างว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ใช้น้ำที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการ แต่นัดชี้แจงที่บ้านภายหลัง พร้อมทั้งกล่าวว่า ทางชลประทานตราด ไม่ได้นิ่งเฉยได้นำหินมาลงเพื่อแก้ไขปัญหาปัญหาถนนพังอยู่เป็นประจำ แต่ผู้สื่อข่าวยืนยันว่า การเสนอข่าวในครั้งนั้นเป็นการเสนอข่าวความเดือนร้อนของผู้ใช้ถนนเส้นนี้ จากการฝังท่อน้ำดิบของชลประทานตราด แต่ไม่ได้นำเสนอข่าวผู้เสียผลประโยชน์ในเชิงที่ไม่ได้รับจากโครงการนี้แต่อย่างใด
จากนั้น นายชัยกร พร้อมเจ้าหน้าที่ ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านฆ้อ และสื่อมวลชน ร่วมกันเดินเท้าไปตามถนนกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อดูสภาพถนนตลอดสาย และพบว่า ถนนที่เป็นหลุมบางช่วง ทางชลประทานได้นำหินมาเทแล้วเพื่อลดปัญหาการสัญจรที่ยากลำบาก พร้อมทั้งชี้ว่า ถนนที่พังเกิดจากการใช้งาน ไม่ได้เกิดจากการทำงานของผู้เหมาฝังท่อน้ำดิบ
และเมื่อเดินทางไปถึงบ้าน นายประสิทธิโชค รุ่งเรือง ปรากฏว่า ไม่เจอเจ้าของบ้าน แต่เจอภรรยานายประสิทธิโชค ที่ขี่รถเข้าบ้านพอดี จนเกิดมีปากเสียงกันระหว่างภรรยานายประสิทธิ กับนายชัยกร โดยชาวบ้านได้ถามนายชัยกร เดินทางมาครั้งนี้เพื่อเจรจา หรือมาทะเลาะกัน นอกจากนี้ ยังไม่พอใจที่ถูกนายชัยกร กล่าวหาว่าไม่ใช่คนในพื้นที่ ทั้งที่ทำมาหากิน และใช้ถนนในซอยนี้มานานเป็นปีก่อนที่จะมีการทำโครงการฝังท่อน้ำดิบ และไม่เคยได้รับความเดือดร้อนมากถึงขนาดนี้
แต่เมื่อการฝังท่อน้ำดิบ มีเครื่องจักร มีรถบรรทุกเข้ามาทำงาน จนทำให้ถนนเริ่มพัง การสัญจรลำบาก โดยเฉพาะเวลาไปรับส่งลูกไปโรงเรียน แต่นายชัยกร ได้ชี้แจงกลับไปว่า ทำไม่ร้องเรียนไปทางประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านฆ้อ เพื่อแก้ไขปัญหา แต่กลับไปร้องสื่อทำไม เพราะทำให้โครงการชลประทานเสียหาย ทั้งที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้ และไม่ใช่ภารกิจโดยตรงของชลประทานตราดเลย และยังตำหนิสื่อที่ทำข่าวความเดือดร้อนแค่คนเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่ นายประสิทธิโชค รุ่งเรือง และนายบุญช่วย พิมแก้ว จะเดินทางมาถึง
โดย นายบุญช่วย ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไปร้องสื่อเพราะตนเองพยายามติดต่อไปทาง อบต.แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และพยายามหาช่องทางร้องทุกข์ และได้ร้องไปทางสื่อมวลชนเพื่อทำข่าวขอความช่วยเหลือ จนข่าวนำเสนอออกไป วันรุ่งขึ้นก็มีรถบรรทุกนำหินมาลงให้ และไม่มีเจตนาใส่ร้ายชลประทานตราด หวังแค่ได้รับการช่วยเหลือบ้าง เพราะเดือดร้อนจริงๆ มีรถบรรทุก มีเครื่องจักรลงมาทำงานจริง จนทำให้ถนนพัง ไม่ใช่ตนเองเพียงคนเดียวที่เดือดร้อน ชาวบ้านที่อยู่ในซอยก็ได้รับผลกระทบ แต่ไม่มีใครกล้าร้องเรียน เพราะกลัวจะมีปัญหา
ด้าน นายชัยกร ลุนทา กล่าวว่า หลังจากรับทราบปัญหาแล้ว พบว่า ปัญหานี้เกิดจากการไม่เข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย และไม่มีการประสานงารับเรื่องร้องเรียน และหลังจากทราบปัญหาแล้ว ได้ทำความเข้าใจต่อประชาชนที่เดือดร้อน หากมีปัญหา หรือผลกระทบจากการทำงานให้แจ้งโดยตรงที่เบอร์ 09-2432-9333
