ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชนซ้ำ 4 คันซ้อนกลางดึก กม.9 บนถนนสายน้ำพอง-กระนวน ช่วงหลัก กม.ที่ 9 หน้าค่ายเปรม ติณสูลานนท์ ขอนแก่น รถไถจอดเสีย รถตู้ขับลงเนินเฉี่ยวล้อหลังก่อนพุ่งข้ามเลนไปชนรถยนต์เก๋ง เป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์กระบะขับมาพอดีเบรกไม่ทันชนซ้ำรถตู้ กระแทกไทยมุงกระเด็นตกข้างถนนเจ็บ หามส่งโรงพยาบาลพร้อมกับคนขับรถตู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา (29 ส.ค.) พ.ต.ต.ภูวมินทร์ อินทร์นอก สารวัตรเวร สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อนบนถนนสายน้ำพอง-กระนวน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 9 หน้าค่ายเปรม ติณสูลานนท์ ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลน้ำพอง
โดยรถยนต์ทั้ง 4 คันอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำให้การจราจรติดเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร จึงได้ประสานงานไปยังมูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง และกู้ภัยทางหลวงน้ำพองรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถไถยี่ห้อฟอร์ด สีน้ำเงิน สภาพเก่าไม่ติดหมายเลขทะเบียน จอดเสียอยู่ฝั่งขาเข้าอำเภอน้ำพอง มีร่องรอยถูกชนที่ล้อหลังจนยางแตก ใกล้กันนั้นพบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กล 2420 ขอนแก่น สภาพด้านหน้ากันชนหน้าพังถึงห้องเครื่อง
ห่างไปอีกประมาณ 60 เมตรพบรถตู้ฮุนได สีน้ำตาลดำ ทะเบียนประมูล ฮร 5526 กรุงเทพมหานคร สภาพล้อหลังยางแตกกระทะล้อบิด กระจกหลังแตก ด้านหน้าทั้งซ้ายและขวาถูกชนเป็นรอยถลอกกระจกมองข้างซ้ายแตกละเอียด ฝั่งขวาของรถถูกรถกระบะเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน ผพ 3436 ขอนแก่น พุ่งชนเข้าอย่างจังตรงกลางลำรถตู้ ทำให้ประตูด้านข้างขวายุบเข้าไป และด้านหน้าของรถเชฟโรเลตพังยับเยิน คนขับเป็นหญิงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการแน่นหน้าอก
สอบสวนนายจิรัฎฐ์ โพธิ์ศรีเจริญกุล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339 หมู่ 1 ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เล่าว่า ตนขับรถตู้มาจากอำเภอกระนวน มาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ไม่มีแสงสว่าง มองไม่เห็นรถไถที่จอดเสียอยู่โดยที่ล้อรถโผล่กินเลนเข้ามาทำให้พุ่งเข้าชนล้อรถอย่างจัง แรงเหวี่ยงของรถทำให้ไปฟาดกับรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออสที่ขับสวนทางมา ก่อนที่จะกระเด็นออกไปจอดกลางถนน
ตนจึงได้ลงมาดูสภาพรถ ขณะเดียวกันมีชาวบ้านสองสามคนเข้ามาดูด้วยกัน จังหวะนั้นได้มีรถกระบะวิ่งพุ่งเข้ามาชนที่รถของตนที่จอดอยู่ ทำให้ชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์ถูกรถกระแทกกระเด็นไปตกข้างถนนได้รับบาดเจ็บ 2 คน ก่อนที่จะมีคนช่วยนำตัวคนเจ็บ และคนขับรถกระบะเชฟโรเลตส่งโรงพยาบาลน้ำพอง
หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ทำเครื่องหมายแยกรถออกจากผิวจราจรได้เดินทางไปสอบปากคำคนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป