xs
xsm
sm
md
lg

“พญาเสือ-พยัคฆ์ไพร” ลุยทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ-พบ จนท.รัฐเอี่ยวขยับแนวเขตรุกอุทยานฯ ออกโฉนดนายทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ-พยัคฆ์ไพร ร่วมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เดินหน้าภารกิจต่อเนื่อง ลุยทวงคืนผืนป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เขตอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ หลังพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องจงใจขยับแนวเขตอุทยานออกโฉนดให้นายทุน เร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 29ส.ค. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรของกรมป่าไม้ นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อเข้าทำการตรวจสอบการชี้ระวางแนวเขต หลักหมุด และยืนยันแนวเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยตามพระราชกฤษฎีกา

หลังพบว่าได้มีเจ้าหน้าที่ประพฤติโดยมิชอบในการชี้หลักหมุดเป็นเท็จเพื่อทำการออกโฉนดที่ดินให้ชาวบ้าน จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน

ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่บ้านแม่ฮะ ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวได้มีการออกโฉนดที่ดิน รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างมีลักษณะเป็นบ้านพักจำนวน 3 หลัง ซึ่งจากการสำรวจที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่ดังกล่าวได้มีการออกโฉนดที่ดินจำนวน 2 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา แต่พบว่ามีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษๆ เป็นพื้นที่ที่มีการรุกล้ำเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

จากการตรวจสอบยังพบว่าได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้กระทำผิดโดยการจงใจขยับแนวเขตของอุทยานแห่งชาติเพื่อออกโฉนดที่ดิน เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนายทุน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่จากชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ ได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งพบว่าเป็นพื้นที่ถือครองตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 แต่ต่อมาสืบทราบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือ แต่ภายหลังกลับพบว่าเจ้าของที่ดินได้มีการนำหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินที่มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่กว่ามาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู

เจ้าหน้าที่จึงเกิดความสงสัยว่าในพื้นเขตอุทยานฯ สามารถออกเอกสารได้อย่างไร จึงได้มีการตรวจสอบจนสืบทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รังวัด ระดับ 6 ชื่อนายธนสาร บุญประครอง สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ เป็นผู้เดินสำรวจรังวัดและกำหนดแนวเขต โดยขยับแนวเขตเข้าไปในพื้นที่ป่าประมาณ 200 เมตร ทำให้สามารถออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าวได้

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบในเชิงลึกยังพบเอกสารที่มีเจ้าหน้าที่รังวัดไปรับรองแนวเขตอุทยานมีการถูกขยับตลอดทั้งแนว โดยมีการลงลายมือชื่อของช่างรังวัดกำกับไว้ จากการตรวจสอบพบว่ามีการจงใจขยับแนวเขต จึงถือว่าเจ้าหน้าที่มีความผิดในการทุจริตต่อหน้าที่ประพฤติมิชอบ หรือแสวงหาผลประโยชน์ ตามมาตรา 157 โดยในส่วนของการดำเนินการขั้นตอนต่อไปนั้นจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้ถือเป็นการจัดการเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตประพฤติมิชอบ หรือหาผลประโยชน์ในหน้าที่การงานของตนเอง เพื่อให้องค์กรมีความโปร่งใส

ด้านนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบในวันนี้ยังพบด้วยว่ามีพื้นที่อีกหลายแปลงที่จะต้องมีการตรวจสอบ เนื่องจากมีการทำในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้จะได้มีการทำหนังสือขอความร่วมมือจากสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาหางดง นำเอกสารที่ได้จากการเดินสำรวจครั้งเดียว และจากนายช่างรังวัดคนเดียวกันนี้มาตรวจสอบอีกครั้ง และหากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับการออกเอกสารสิทธิที่ขยับแนวเขตนี้ และจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ที่ดินทำเรื่องขอเพิกถอนทั้งหมด ก่อนที่จะมีความเสียหายมากไปกว่านี้






กำลังโหลดความคิดเห็น