คนร้ายลอบเผารถกระบะนายก อบต.นครชุมน์ ราชบุรี คาดปมขัดแย้งภายใน

ราชบุรี - คนร้ายขับรถจักรยานยนต์บุกเผารถยนต์กระบะของนายก อบต.นครชุมน์ เมืงราชบุรี โชคดีชาวบ้านช่วยดับไฟได้ทัน คาดไม่พอใจการทำงานภายใน อบต.

วันนี้ (25 ส.ค.) พ.ต.ต.ยุทธนา ภูเก้าแก้ว สว.สอบสวน สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายจุดไฟเผารถยนต์ที่จอดไว้ด้านหลังของสำนักงาน อบต.นครชุมน์ ม.8 ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จึงพร้อม พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.สรายุทธ บุรีวชิระ รอง ผกก.สส. และชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ

พบว่าเป็นที่จอดรถของคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และพนักงาน อบต. ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังสำนักงาน และด้านหลังของที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลนครชุมน์ เจ้าหน้าที่พบ นายสมนึก แม้นจิตต์ อายุ 59 ปี นายก อบต.นครชุมน์ กำลังยืนดูรถยนต์กระบะของตัวเองเคร่งเครียด ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บร 3857 ราชบุรี ซึ่งถูกไฟไหม้ยางขอบกระจกหน้า และยางบังโคลนล้อหน้าขวา และในที่เกิดเหตุพบแกลลอนพลาสติกใส่น้ำมัน ซึ่งไฟไหม้บางส่วน พร้อมฝาแกลลอนตกอยู่อีกด้วย

จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ นายสมนึก ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านพักเดินทางมาทำงานตามปกติ หลังนำรถจอดตรงที่จอดแล้วก็นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ของ อบต.ทั้งหมดรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งเดินทางไปร่วมกันทำกิจกรรมกวาดทำความสะอาดถนน “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์” พร้อมปลูกต้นดาวเรือง บริเวณริมคลองงิ้วทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงาน อบต.นครชุมน์ ไปประมาณ 500 เมตร

ขณะกำลังทำกิจกรรมกันอยู่ ได้มีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกไหมพรม ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและยี่ห้อ ขี่เข้ามาจอดที่หน้ารถยนต์ของ นายสมนึก จากนั้นคนร้ายได้เปิดผาแกลลอนน้ำมันที่หิ้วมาด้วย แล้วโยนแกลลอนไปตรงกระจกพร้อมกับจุดไฟทันที หลังจากนั้น ก็รีบขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจังหวะที่ นายบุญเลิศ หิรัญรัตนภิญโญ อายุ 48 ปี สมาชิก อบต. ได้เดินออกมาจากสำนักงานเห็นเหตุการณ์พอดี จึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามหน้าสำนักงาน นำถังน้ำยาเคมีดับเพลิงมาทำการดับไฟไว้ได้ทัน

ส่วนสาเหตุคนร้ายบุกเผารถยนต์กระบะของ นายสมนึก นายก อบต.นครชุมน์ ครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากปัญหาการทำงานภายในสำนักงาน อบต. และเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าตำรวจจะได้สืบสวนเพื่อหาสาเหตุแท้จริง พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป