อ่างทอง - แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวโผงเผง เด็กนักเรียนครวญเดินทางเข้าออกลำบาก ล่าสุด มีผู้ได้รับความเดือดร้อน 132 ครัวเรือน พร้อมเตรียมนำเรือแจกจ่ายสิ่งของ ทาง อบต.โผงเผง ร่วมกับทหารเร่งกรอกถุงทรายเพื่อป้องกันจุดเสี่ยง
วันนี้ (24 ส.ค.) สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระบายลงสู่ท้ายเขื่อนเพื่อรองรับมวลน้ำจากทางภาคเหนือ ล่าสุด แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีชลมาตร C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง อยู่ที่ระดับ 7.23 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,494 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลกระทบน้ำล้นตลิ่ง บริเวณคลองโผงเผง สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ท่วมขังสูง 30-90 เซนติเมตร มีผู้ประสบภัยแล้ว จำนวน 132 ครัวเรือน
ด้าน นางสำเริง เมฆหมอก อายุ 65 ปี ชาวบ้านในตำบลโผงเผง กล่าวว่า ในช่วงนี้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ต้องใช้เรือพายในการเดินทางเข้าออกจากบ้าน ส่งลูกหลานไปโรงเรียน และทำงาน รวมตั้งต้องคอยระแวงสัตว์ร้ายมีพิษที่หนีมาตามน้ำ หลบซ่อนอาศัยอยู่ในบ้านเรือน และในช่วงนี้น้ำในคลองโผงเผง ขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มปริมาณอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบในการดำเนินชีวิตประจำวัน
แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบริเวณนี้ชินแล้ว เนื่องจากเป็นวิถีของชาวบ้านนอกเขตป้องกันน้ำ และบ้านอยู่ริมคลอง เมื่อถึงฤดูน้ำหลากน้ำเอ่อล้นก็ไหลเข้าท่วม เป็นสถานการณ์ที่ต้องปรับตัวรับสภาพให้เคยชินต่อธรรมชาติ
นายไพบูลย์ ศุภบุญ นายอำเภอป่าโมก กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเตรียมเก็บข้าวของยกขึ้นที่สูง พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณน้ำอย่างใกล้ชิด โดยชาวบ้านในตำบลโผงเผง ได้รับความเดือดร้อนแล้ว จำนวน 132 ครัวเรือน ซึ่งเป็นบ้านเรือนที่อยู่ริมคลองโผงเผง นอกเขตคันกั้นน้ำ พร้อมนำเรือแจกจ่ายสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ส่วนพื้นที่ในแนวคันกั้นน้ำ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง พร้อมกับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบได้ร่วมกันกรอกทรายเพื่อเสริม และป้องกันจุดเสี่ยงน้ำเอ่อล้นตลิ่งต่อไป
ด้าน จ.ชัยนาท นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เปิดเผยสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ว่า ปริมาณน้ำจากทางภาคเหนือยังไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทาน ได้ทำการผันน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออกเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นจาก 319 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 335 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เพื่อลดปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา และยังคงรักษาอัตราการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาคงที่ในอัตรา 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อชาวบ้านริมตลิ่งมากนัก และไม่กระทบต่อนาข้าวในที่ลุ่มต่ำที่อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ หากชาวนาลุ่มเจ้าพระยา ทำการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 กันยายนนี้ การผันน้ำเข้าทุ่งจะทำได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปริมาณน้ำวันนี้ น้ำเจ้าพระยาที่ไหลมาจาก จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 1,822 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 4 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนน้ำสะแกกรัง จาก จ.อุทัยธานี มีปริมาณ 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 13 ลูกบาศก์เมตรต่อ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ อ.เมืองชัยนาท น้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 1 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 15.81 เมตร ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา น้ำทรงตัวอยู่ที่ระดับ 13.60 เมตร