เชียงราย - เกิดอุบัติเหตุสุดสลด เรือหางยาวโดยสารในแม่น้ำกกแก๊สหมดกะทันหัน ถูกกระแสน้ำเชี่ยวซัดกระแทกโขดหินจนเรือแตก-ล่มกลางน้ำ คนเรือ-ผู้โดยสารกระโดดหนีได้ 3 ขณะที่แม่-ลูกวัย 2 ขวบหนีไม่ทัน กอดกันเสียชีวิตอยู่ใต้ซากเรือ
เย็นวันนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.ต.พันธุ์ศักดิ์ ข่มอาวุธ สารวัตรเวร สภ.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุเรือหางยาวโดยสารล่มกลางแม่น้ำกก หน้าผาข้างวัดถ้ำพระ ตรงข้ามกับหาดเชียงราย พื้นที่บ้านป่าอ้อ ม.5 ต.แม่ยาวจึงประสานหน่วยกู้ภัย รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบสภาพเรือโดยสารหางยาวชื่อ “เรือเพชรไพวัลย์” ขนาดบรรทุกได้ไม่เกิน 7-8 คน ที่แล่นให้บริการตามปกติจากท่าเรือเขตเทศบาลนครเชียงราย-ต.แม่ยาว ไปจนถึง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ชนกับโขดหินที่อยู่ใกล้ฝั่งน้ำกก ซึ่งพ้นจากน้ำขึ้นมาประมาณ 1 เมตรสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซากเรือพ้นน้ำขึ้นมาครึ่งลำ และเกยอยู่ติดกับหิน
จากการตรวจสอบสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีคนกระโดดออกจากเรือว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้ทัน 3 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายพิทักษ์ ธรรมสอน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.4 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นคนขับเรือ, น.ส.อรพรรณ พรมชัย อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.4 ต.แม่ยาว และนายธงชัย เครือสาร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 323 ม.4 ต.ริมกก
ขณะที่ผู้โดยสารอีก 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นางวิไลเพชร หรือน้อย อินทจักร อายุ 31 ปี และ ด.ญ.อภิชญา อินทรจักร อายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรสาว ได้จมหายไปกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและลึก
เจ้าหน้าที่จึงประสานนักประดาน้ำสมาคมศิริกรณ์เชียงรายและบรรเทาสาธารณภัยช่วยงมค้นหาและพบร่างของนางน้อยเสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากเรือในสภาพกอดลูกสาวไว้อยู่ แต่ช่วงที่เจ้าหน้าที่ลงไปช่วยร่างของลูกสาวได้หลุดออกไปเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำร่างของนางน้อยออกมาจากน้ำได้เพียงคนเดียว ส่วน ด.ญ.อภิชญา ยังคงหายไปกับกระแสน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามค้นหาจนมืดจึงยุติการค้นหาชั่วคราว และจะออกค้นหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น (23 ส.ค.)
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เรือโดยสารลำดังกล่าวเพิ่งรับผู้โดยสารมาจากท่าเรือซีอาร์ เชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง เขตเทศบาลนครเชียงราย มุ่งหน้าไปบ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว โดยคนบนเรือดื่มสุราไปด้วย กระทั่งเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่าแก๊สที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงของเรือหมดลงกะทันหัน จึงพยายามกลับหัวเรือเข้าเทียบฝั่ง แต่กระแสน้ำไหลแรง ทำให้ถูกซัดไปกระแทกโขดหินจนเรือแตก และล่มลงดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายพิทักษ์ไปตรวจร่างกายเพื่อหาแอลกอฮอล์ และตรวจสอบใบอนุญาตการขับเรือ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าใบอนุญาตเป็นของบุคคลอื่น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวน และหาหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง