xs
xsm
sm
md
lg

ชาวกาฬสินธุ์ทำบุญข้าวประดับดิน สืบประเพณีฮีตสิบคองสิบสี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ชาวกาฬสินธุ์พร้อมใจเข้าวัด จัดอาหารคาวหวานร่วมทำบุญข้าวประดับดินคึกคักแน่นวัดประชานิยม หวังทำบุญอาหารให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว สืบสานประเพณีบุญเดือนเก้า ตามฮีตสิบสองคองสิบสี่
ชาวอ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมทำบุญข้าวประดับดินที่วัดประชานิยมจำนวนมาก
วันนี้ (21 ส.ค. 60) ที่วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) เป็นประธานสงฆ์ พิธีทำบุญข้าวประดับดิน มีประชาชนทุกเพศ ทุกวัยจัดสำรับอาหารคาวหวานไปทำบุญบอกกล่าววิญญาณบรรพบุรุษ รวมทั้งวิญญาณเรร่อน เจ้ากรรมนายเวร มารับส่วนบุญส่วนกุศลนี้ ทั้งยังได้ร่วมบริจาคทำบุญ สมทบทุนสร้างเจดีย์ศรีมิ่งเมืองกาฬสินธุ์ นำธนบัตรร้อยเป็นพวงมาลัยก่อนร่วมกันยกขึ้นสู่ยอดเจดีย์ จากนั้นพุทธศาสนิกชนได้ร่วมตักบาตร ถวายภัตตาหารและปัจจัยไทยทาน

ประเพณีบุญข้าวประดับดิน หรือบุญเดือนเก้า เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่สืบทอดกันมาในภาคอีสาน ชาวบ้านจะนำข้าวปลาอาหารคาวหวาน ผลไม้ หมากพลู บุหรี่ มาห่อด้วยใบตอง และทำเป็นห่อเล็กๆ นำไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่หรือตามพื้นดินบริเวณรอบๆ เจดีย์ หรือโบสถ์ ชาวบ้านเชื่อว่าทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงอุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรก หรือเปรต ให้ทานแก่ผู้ยากไร้ รวมทั้งสัตว์ที่หิวโหย เพราะการตั้งอาหารไว้ตามพื้นดินทำให้สัตว์เหล่านั้นสามารถเข้ามากินอาหารได้อย่างเต็มที่




ทั้งนี้ การทำบุญข้าวประดับดินนี้เกิดจากความเชื่อตามนิทานธรรมบท ว่าญาติของพระเจ้าพิมพิสารได้ยักยอกเงินวัดไปเป็นของตน เมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดเป็นเปรต และเมื่อพระเจ้าพิมพิสารถวายทานแด่พระพุทธเจ้าแล้ว มิได้อุทิศให้ญาติที่ตาย กลางคืนเปรตที่เป็นญาติต่างเปล่งเสียงน่ากลัวใกล้พระราชนิเวศน์ รุ่งเช้าได้เสด็จไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทูลเหตุุให้ทราบ พระเจ้าพิมพิสารจึงถวายทานแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ ญาติจึงได้รับส่วนกุศล ถือเป็นประเพณีที่ญาติ ลูกหลาน ต้องทำเป็นประจำทุกปี เพราะเชื่อว่าคนที่ล่วงลับในภพภูมิอื่นจะได้ไม่อดอยาก
กำลังโหลดความคิดเห็น