ระยอง - เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาฯ นักวิชาการประมง ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเล และแพลงก์ตอน หาดก้นอ่าวส่งตรวจ คาดว่าซากเปลือกหอยจ๊อก และหอยแมลงภู่วัยอ่อนถูกคลื่นใต้น้ำ หรือชาวประมงเรียกว่า “ซาง” ซัดเข้าชายหาด
จากกรณีที่ชาวประมงพบซากเปลือกหอยแมลงภู่ เปลือกหอยจ๊อก หรือหอยกระโดดเกลื่อนชายหาดก้นอ่าว ระยะทางยาวกว่า 200 เมตร เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ (20 ส.ค) นายสงกรานต์ แสงจันทร์ ประมงจังหวัดระยอง สั่งการให้ นางไพรัตน์ เจียะรัตน์ ประมงอำเภอเมืองระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมกับนายบัณฑิต ยังพลขันธ์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ระยอง) นายปิติพร นิลพัฒน์ เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน นายปองธรรม ประจงพันธุ์ นักวิชาการประมงปฏิบัติการ น.ส.ทิพากร สุขพล เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติการ นายปฐมพงษ์ พัดสอน เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติการ ลงพื้นที่บริเวณชายหาดก้นอ่าว ต.เพ อ.เมืองระยอง
ทั้งนี้ นางไพรัตน์ เจียะรัตน์ ประมง อ.เมืองระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นหลังได้พูดคุยกับชาวประมงในพื้นที่เกิดเหตุทราบว่า หอยแมลงภู่อายุ 3 เดือน และซากเปลือกหอยแมลงภู่วัยอ่อน รวมทั้งซากเปลือกหอยจ๊อก หรือหอยกระโดดเกลื่อนชายหาดว่า อาจเกิดจากน้ำหมุนวนของกระแสน้ำใต้ทะเล หรือที่ชาวประมงเรียกว่า ซาง หรือที่เรียกในภาษาทางราชการว่า คลื่นใต้น้ำ เกิดขึ้นเป็นประจำปีละ 3-4 ครั้ง
โดยเฉพาะบริเวณก้นอ่าวแต่ไม่ได้เกิดทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ซากสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น หอยจ๊อก หรือหอยกระโดดที่ตายซัดเข้าชายหาด ส่วนลูกหอยแมลงภู่บางส่วนที่สามารถเกาะยึดกับเศษเชือก และขยะได้ทำให้ไม่ตาย ตัวไหนที่ไม่สามารถยึดเกาะได้ก็ถูกกระแสน้ำซัดทำให้ตาย และถูกคลื่นซัดเข้าชายหาด
นางไพรัตน์ เจียะรัตน์ ประมง อ.เมืองระยอง กล่าวว่า พื้นที่บริเวณก้นอ่าวเป็นแหล่งกำเนิดหอยจ๊อก หรือหอยกระโดด สัตว์น้ำวัยอ่อนทนความต้านทานของคลื่นลมไม่ได้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการตาย สำหรับหอยแมลงภู่ตัวไหนที่สามารถยึดเกาะเศษขยะใต้ทะเลได้ก็รอดตาย
ส่วนตัววัยอ่อนไม่สามารถยึดเกาะเศษขยะใต้ทะเลได้ก็ถูกคลื่นใต้น้ำซัดตายได้ ยิ่งหน้าลมมรสุมหรือหน้าหนาวเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ก็จะเกิดเหตุการณ์คลื่นซัดหอยกระจ๊อกวัยอ่อนตายเกลื่อนหาด เจ้าหน้าที่คงต้องเฝ้าสังเกตโดยให้ชาวประมงเป็นหูเป็นตาให้ อ่าวระยองมีลูกหอยแมลงภู่เยอะมาก อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าอ่าวระยองเริ่มมีความอุดมสมบูรณ์แล้ว
ด้าน นายปิติพร นิลพัฒน์ เจ้าพนักงานประมงชำนาญการ กล่าวว่า วันนี้เก็บตัวอย่างน้ำ และแพลงก์ตอนไปวิเคราะห์หาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เบื้องต้น คุณภาพน้ำทะเลบริเวณก้นอ่าวอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ต้องรอผลตรวจวิเคราะห์จากห้องแล็บอีกครั้ง