ประจวบคีรีขันธ์ - พบซากกระทิงเพศผู้ตายในป่าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี สภาพมีบาดแผลที่รักแร้ซ้าย และหน้าอก คาดเกิดจากการต่อสู้กับกระทิงในฝูงเดียวกัน จนท.เร่งเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่วนต่างๆ รวมทั้งดิน และหญ้าไปตรวจสอบ
วันนี้ (17 ส.ค.) นายทัศนะ ศรีวิลาศ เจ้าหน้าที่ป่าไม้อาวุโส หัวหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พบกระทิงนอนตายอยู่ในป่า ข้างถนนสายไทยยานนท์ ม.7 บ้านรวมไทย ต.หาดขามอ.กุยบุรี ห่างจากพื้นที่โครงการกุญชร ประมาณ 1 กิโลเมตร หลังรับแจ้งจึงรายงาน นายชาตรี จันทร์วีรชัย นายอำเภอกุยบุรี ให้เข้าตรวจสอบ โดยมี พ.ต.อ.สมฤกษ์ ชัยสุกัญญาสันต์ ผกก.สภ.บ้านยางชุม ร.ท.เสน่ห์ เมืองถาวร หัวหน้าชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม
ไปถึงพบซากกระทิงขนาดใหญ่ เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม นอนตายอยู่ใต้ต้นมะเดื่อใกล้ลำธาร ห่างจากถนนประมาณ 15 เมตร สภาพตะแคงด้านขวา เริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 4-5 วัน จ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบตามลำตัว พบว่า มีบาดแผลที่รักแร้ซ้าย และหน้าอก ลักษณะคล้ายกับถูกคมเขาจากการต่อสู้
ขณะที่ นางกิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด สัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เผยหลังทำการตรวจสอบตามร่างกายอย่างละเอียดว่า กระทิงตัวดังกล่าวมีอายุประมาณ 18-20 ปี ส่วนแผลที่บริเวณใต้รักแร้ และหน้าอกน่าจะเกิดจากการต่อสู้กับกระทิงในฝูงเดียวกัน โดยพบว่า บาดแผลติดเชื้อ ประกอบกับอายุมาก จึงตายชนิดฉับพลัน และคาดว่าน่าตายมาแล้วประมาณ 4-5 วัน
ด้าน นายทัศนะ ศรีวิลาศ หัวหน้าโครงการกุญชร กล่าวว่า กระทิงตัวดังกล่าวเป็นกระทิงโทน ที่หากินอยู่เพียงลำพัง และเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ยังเห็นกระทิงตัวนี้เดินหากินในพื้นที่ใกล้เหตุที่พบซาก ซึ่งขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่วนต่างๆ รวมทั้งดินและหญ้าในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด และยังได้มอบน้ำยาฆ่าเชื้อให้แก่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อทำการฆ่าเชื้อ และฝังกลบบริเวณโดยรอบที่กระทิงตาย เพื่อป้องกันเชื้อโรคแล้ว
