xs
xsm
sm
md
lg

สังคมเมืองพัทยาสรุปไม่หนุนโครงการรื้อถอนวงเวียนปลาโลมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ถกด่วน ภาคธุรกิจเมืองพัทยา ร่วมชุมชน อดีตนักการเมืองท้องถิ่น หารือปัญหานโยบายเมืองพัทยากรณีแผนโครงการรื้อถอนวงเวียนปลาโลมา สร้างแยกไฟแดงพัทยาเหนือ ระบุวงเวียนเป็นอัตลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ก่อนได้ผลสรุปไม่สนับสนุน และขอชะลอโครงการ

วันนี้ (15 ส.ค.) ตัวแทนจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งองค์กรภาคเอกชน ตัวแทนชุมชน และอดีตนักการเมืองท้องถิ่น นำโดย นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ร่วมประชุมเพื่อหารือ ที่โรงแรม สบายรีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อระดมความคิดเห็นกรณีที่เมืองพัทยา มีนโยบายในการรื้อวงเวียนปลาโลมา เพื่อจัดทำโครงการแยกด้วยระบบสัญญาณไฟจราจร โดยระบุว่า เป็นแผนในการรองรับการแก้ไขปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และอนาคต

เนื่องจากที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น จนรูปแบบของวงเวียนที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2538 ไม่สามารถรองรับปัญหาดังกล่าวได้ กระทั่งมีการสำรวจ ศึกษา และออกแบบเพื่อทำการแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว จำนวน 6.9 ล้านบาท แต่พบว่า โครงการดังกล่าวมีกระแสคัดค้านจากประชาชน และหลายภาคส่วน โดยเห็นว่าการดำเนินการอาจทำลายอัตลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ซึ่งนายกเมืองพัทยา ชี้แจงว่า โครงการนี้มีการศึกษาอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังไม่รื้อปลาโลมาออกจากพื้นที่ เพียงแต่เปลี่ยนจุดติดตั้ง และโครงการนี้ยังเป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่ก็พร้อมทบทวนหากภาคสังคมเห็นว่าไม่มีความเหมาะสม

โดยในที่ประชุมได้เชิญ นายปัญโชติ สอนคม อดีตหัวหน้าฝ่ายสถาปัตยกรรม สำนักการช่างเมืองพัทยา ซึ่งเป็นผู้ออกแบบการก่อสร้างวงเวียนปลาโลมา เข้าร่วมชี้แจงถึงความเป็นมา ซึ่ง นายปัญโชติ ระบุว่า ในอดีตเมืองพัทยาประสบปัญหาความเสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก แต่รัฐบาลมองเห็นถึงความจำเป็นของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ จึงได้อนุมัติกู้เงินจาก OECF เดิม เพื่อมาจัดทำโครงการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ทั้งเรื่องของการปรับปรุงภูมิทัศน์ เส้นทางคมนาคม และอื่นๆ รวมทั้งการก่อสร้างวงเวียนปลาโลมา ถนนพัทยาเหนือ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวม ซึ่งโครงการนี้ก่อนการจัดทำได้มีการศึกษา ออกแบบ และทดลองเดินรถทั้งระบบสัญญาณไฟ และระบบวงเวียน กระทั่งเห็นว่าวงเวียนเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ดีที่สุดในขณะนั้น อีกทั้งยังสร้างสัญลักษณ์ และอัตลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งก็พบว่าได้รับการตอบรับจากสังคมเป็นอย่างดี

“ในอดีตสมัย นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร เป็นนายกเมืองพัทยา เคยมีการศึกษาการแก้ไขปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าวมาแล้ว รวมทั้งการทดลองแบบการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร ซึ่งพบว่ามีปัญหาการจราจรกระจุกตัว โดยเฉพาะสายนาเกลือ และพัทยาสาย 2 ที่สำคัญจากผลศึกษาในขณะนั้นระบุว่าพื้นที่นี้มีแยกจากถนนสายต่างๆ รวมกว่า 5 เส้นทางจึงไม่มีความเหมาะสมในการจัดทำระบบสัญญาณไฟจราจร สำหรับวงเวียนที่มีการจัดทำมีการคำนึงถึงเรื่องของรัศมีวงเลี้ยวของรถทุกชนิด จึงมีการจัดทำช่องทางการเดินรถรอบวงเวียนแบบ 3 ช่องจราจร ซึ่งยืนยันว่า สามารถรองรับรถขนาดใหญ่ได้ทุกประเภท แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบั นเป็นเพราะมีการปิดกั้นวงเวียนทำให้การเดินรถไปเป็นไปตามระบบ อีกทั้งคนส่วนใหญ่ยังขาดวินัยการจราจรจึงทำให้มีปัญหารถติดสะสม“

นายปัญโชติ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่ตั้งข้อสังเกต คือ ในเร็ววันนี้จะมีการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งตามข้อกฎหมายแล้วต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งรวมถึงแผนการจัดการปัญหาจราจร เพื่อลดกระทบต่อสังคมเมือง และตัวห้างฯ เรื่องนี้ จึง อยากให้เมืองพัทยาชี้แจงว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร สิ่งสำคัญ คือ เมืองพัทยา มีแผนแม่บทของตัวเอง แล้วเราต้องไปทำตามเค้า หรือเค้าต้องทำตามแผนที่เรากำหนด

ด้าน นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ได้ติดตามกรณีโครงการนี้มาโดยตลอด ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่จะมีการรื้อวงเวียนออก เพราะเป็นสัญลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ก็คงไม่ได้คัดค้านเพียงร้องขอให้เมืองพัทยา ชี้แจงถึงความจำเป็น และข้อดีข้อเสียของการจัดทำโครงการ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับการหารือมีประเด็นพูดคุยที่หลากหลาย โดยสรุปเนื้อหาที่สำคัญ เช่น ในอดีตเมืองพัทยาเคยจัดทำการศึกษา และวางแผนแม่บทด้านการจราจรของเมืองพัทยามาแล้ว แต่ไม่มีการหยิบยกผลการศึกษานี้มาใช้ประกอบในการตัดสินใจ ขณะที่หลายเสียงระบุว่า การทำแยกสัญญาณไฟแดงจะสร้างปัญหาการจราจรอย่างแน่นอน อีกทั้งข้อสงสัยว่าโครงการดังกล่าวมีผลสืบเนื่องมาจากมาจากแผนการเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในบริเวณดังกล่าวในเดือนกรกฎาคมปี 2561 หรือไม่

นายบุญอนันต์ พัฒนสิน ในฐานะเลขานุการสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันทำงานในอีกบทบาทหนึ่งคือ เลขานุการสภาเมืองพัทยา ซึ่งปัจจุบันได้รับแจ้งจากนายเมืองพัทยาว่า พร้อมชี้แจงข้อมูลทุกด้านแก่สังคม รวมทั้งพร้อมการจัดทำประชาพิจารณ์ และทบทวนโครงการนี้ ขณะที่กระแสที่ออกมาว่ามีการเอื้อประโยชน์ และใช้แผนการจราจรของห้างขนาดใหญ่นั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเพียงแต่เคยมีการประชุม และหารือร่วมกันเท่านั้น สุดท้ายเจตนาก็เพื่อการแก้ไขปัญหาของเมืองพัทยาเป็นปัจจัยหลัก

ขณะที่ นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ในฐานะประธานการประชุมสรุปผลหลังการหารือว่าในที่ประชุมมีผลสรุปร่วมกันว่า “ไม่สนับสนุน แต่ไม่ได้คัดค้าน และขอให้ชะลอโครงการไว้ก่อน” จากนั้นจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อกำหนดประเด็นซักถาม ก่อนทำหนังสือประสานไปยังนายกเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มาทำการชี้แจงถึงความเป็นมาของโครงการ รวมทั้งผลดีผลเสียของการจัดทำ นอกจากนี้ ยังจะร้องขอให้นำแผนแม่บทในการศึกษาการแก้ไขปัญหาการจราจรเดิมที่เมืองพัทยาเคยว่าจ้างที่ปรึกษามาทำไว้ มาประกอบการพิจารณาในการตัดสินใจด้วย ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนในเร็ววันนี้”


กำลังโหลดความคิดเห็น