ศูนย์ข่าวศรีราชา - กฟภ.พัทยา ระบุวางแผนงานลดผลกระทบปัญหาจราจรอย่างเป็นระบบ พร้อมเร่งรัดสัญญามั่นใจแล้วเสร็จตุลาคมนี้แน่นอน เพื่อลดความเดือดร้อน และรองรับกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ขณะนี้แผนการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ เริ่มเส้นพัทยาเหนือ ทำถนนตัวอย่างสายไฟฟ้าสื่อสารลงดิน เริ่มปลายปี 60 แล้วเสร็จกรกฎาคม 61 ก่อนขยายครบ 7 เส้นทางหลักทั่วเขตเมืองพัทยา
วันนี้ (10 ส.ค.) นายนิรุติ เจริญชอบ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริ หาร และตัวแทนส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการดำเนินการโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าระยะที่ 9 ตามโครงการวางระบบสายไฟฟ้าลงดินเพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านการบริโภค ด้วยการวางระบบสายไฟฟ้าแรงสูงใต้ดินบนถนนพัทยากลาง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ โดยมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วม ที่ห้องประชุมชั้น 4 ของสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
นายนิรุติ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยา เปิดเผยข้อมูลว่า กฟภ.ได้รับงบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย ในการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ 9 โดยที่ผ่านมา กฟภ.ได้ลงทุนก่อสร้างสถานีไฟฟ้าพัทยากลาง วงเงินรวม 296 ล้านบาท ซึ่ง กฟภ.จะได้ทำการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าระดับแรงดัน 115 kV สำหรับป้อนจ่ายให้กับสถานีไฟฟ้าย่อยพัทยากลาง บริเวณตรงข้ามร้านเลือดหมูคุณศรี เพื่อรองรับ และสร้างเสถียรภาพการใช้กระแสไฟฟ้าที่สามารถรองรับผู้บริโภคได้ในระยะ 10 ปี โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป บนถนนสายพัทยากลาง ซึ่งจทำการขุดเจาะผิวการจราจรเป็นช่วงๆละ 150 เมตร เริ่มจากหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยไปสู่ถนนพัทยากลาง เพื่อวางระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่หุ้มด้วยท่อ HDPE และบล็อกคอนกรีตแบบ Precast Duct Bank รวมระยะทางกว่า 1.1 กม. ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณรวม 76 ล้านบาท โดยมีกลุ่ม Consortium ศรีชลธร และอินเตอร์ลิ้งค์เพาเวอร์ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ตามสัญญาที่ระบุไว้ในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2560 รวมทั้งสิ้น 290 วัน
นายนิรุติ กล่าวต่อไปว่า การปิดถนนพัทยากลางนั้นจะมีการปิดช่องจราจรขนาด 1 เลน ในฝั่งขาขึ้น เพื่อเปิดหน้างานในขนาดความกว้าง 4 เมตร พร้อมการติดตั้งแบริเออร์ป้องกันอุบัติเหตุทั้ง 2 แนว ตามช่วงพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งแต่ละช่วงจะกำหนดระยะเวลาการทำการตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ รวม 5 วัน ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.30-16.30 น.โดยไม่มีการก่อสร้างในช่วงวันเสาร์ และอาทิตย์ จากนั้นจะทำการปิดหลุมที่วางระบบสายไฟฟ้าใช้ดินขนาดความลึก 2-2.5 เมตร ด้วยคอนกรีตพิเศษตามมาตรฐานของกรมทางหลวง ซึ่งจะมีการแห้งตัวในเวลา 24 ชม.เพื่อคืนสภาพผิวการจราจรที่จะกลับมาใช้งานได้ในวันจันทร์ต่อไป ซึ่งทางโครงการก็จะเปลี่ยนจุดก่อสร้างไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงปากทางพัทยากลาง
นายนิรุติ กล่าวต่อไปว่า โครงการนี้แม้จะมีสัญญาสิ้นสุดในเดือนธันวาคมปี 60 แต่ได้มีการวางแผนและเร่งรัดการทำงานมาแล้วล่วงหน้า ซึ่งตามแผนงานทุกอย่างต้องเสร็จสมบูรณ์ก่อนกำหนดในระยะเวลา 2 เดือนครึ่ง หรือจะเสร็จทันในช่วงเดือนตุลาคม ก่อนงานสำคัญอย่างมหกรรมเรือนานาชาติ จะเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนอย่างแน่นอน
ขณะที่สิ่งที่ประชาชนเป็นห่วงคือ เรื่องของวิกฤตจราจรในช่วงของการก่อสร้างนั้น กรณีดังกล่าวได้มีการมอบหมายให้ผู้รับเหมาจัดทำระบบความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ทั้งแบริเออร์ ป้ายเตือน และวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างที่ต้องอยู่ในพื้นที่เขตแนวที่มีการขุดเจาะในระยะ 4 เมตรจากช่องจราจรเท่านั้น ขณะที่รถ และยานพาหนะทั่วไปจะสามารถวิ่งผ่านโครงการได้ โดยขาขึ้นสู่ปากทางพัทยากลาง จะสามารถวิ่งได้ 2 เลน ส่วนขาลงจะวิ่งได้ 3 เลนตามปกติ เพียงได้ประสานไปยัง สภ.เมืองพัทยา ในการกำหนดห้ามจอดรถยนต์ทุกชนิดตลอดแนวโครงการเพื่อป้องกันปัญหารถสะสม และติดขัดแล้ว
สำหรับแผนงานนี้หลังเสร็จสิ้น นายนิรุต กล่าวเสริมว่า ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการตามแผนโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ โดยจะมีการวางระบบไฟฟ้าขนาด 22 KV และสายสื่อสารทุกชนิดลงดินบนถนนพัทยาเหนือตลอดเส้นทาง เพื่อทำเป็นถนนตัวอย่าง ซึ่งอยู่ในแผนที่จะจัดทำขึ้นตามนโยบายของภาครัฐในเมืองหลัก 4 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต หาดใหญ่ โคราช จากงบประมาณกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการรวม 5 ปี ระหว่างปี 2560-2564 ซึ่งในส่วนของถนนพัทยาเหนือนี้จะทำต่อในรูปแบบเดียวกันกับถนนพัทยากลาง และจะเริ่มทันทีหลังจากโครงการบนถนนพัทยากลางแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มได้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ และจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคมปี 2561 ซึ่งจะรองรับการเปิดใหม่ของห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 และการเติบโตของสังคมเมืองต่อไป