ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศาลพัทยาตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ศราวุธ บุญชัย ฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนและเบิกความเท็จต่อศาล รวม 5 ปี ปรับรวม 24,000 บาท กรณีกล่าวหา อดีตผู้กำกับ สภ.ไชยาและอดีตประธาน นปช.สุราษฎร์ธานี ร่วมม็อบเสื้อแดงล้มการประชุมอาเซียนปี 58 จำเลยสารภาพลดโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน รอลงอาญา
จากกรณี พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ อดีตผู้กำกับการ สภ.ไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตประธาน นปช.สุราษฎร์ธานี ตกเป็นจำเลยคดีบุกล้มการประชุมเอเซียนซัมมิท ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2552 ได้ต่อสู้คดีมานานหลายปี จนศาลชั้นต้นยกฟ้องเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2558 เนื่องจากมีพยานหลักฐานเป็นบันทึกประจำวันแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง ว่า เวลาเดียวกับที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่ที่พัทยานั้น พ.ต.อ.สมพล แจ้งความนาฬิกาโรเล็กซ์หายอยู่ที่ สน.นางเลิ้ง ศาลพัทยาจึงยกฟ้องเพราะไม่มีบุคคลใดสามารถปรากฏกายได้ใน 2 สถานที่ในเวลาเดียวกันได้ และอัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด
ต่อมา พ.ต.อ.สมพล ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.พัทยา กล่าวหา พ.ต.ท.ศราวุธ บุญชัย ว่าเป็นพยานเท็จ ซึ่งตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้อง และอัยการก็สั่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา นัดสืบพยานวันที่ 4 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา จำเลยรับสารภาพ ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันพุธที่ 9 สิงหาคม 2560 เวลา 09.30 ที่ศาลจังหวัดพัทยา
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีบังลังก์ 4 ศาลจังหวัดพัทยา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพัทยา ได้อ่านคำพิพากษาว่า พ.ต.ท.ศราวุธ มีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน ให้จำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท และมีความผิดฐานเบิกความเท็จต่อศาล ให้จำคุก 3 ปี ปรับ 14,000 บาท พ.ต.ท.ศราวุธให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับอีก 12,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา และให้รายงานตัวต่อกรมควบคุมความประพฤติ 4 เดือนต่อครั้ง และบำเพ็ญประโยชน์ 24 ชม.
ด้าน พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ หลังจากออกจากห้องพิจารณาดีได้ออกมาเปิดเผยต่อทางสื่อมวลชน ว่า หลังจากตกเป็นจำเลยการใช้ชีวิตกับครอบครัวไม่ปกติ สู้คดีมากว่า 5 ปี ชื่อเสียง และเกียรติยศเสียหาย ซึ่งหลังจากชนะคดี และได้ฟ้องต่อ พ.ต.ท.ศราวุธ บุญชัย ฐานให้ความเท็จซึ่งขนาดระดับตำรวจยศ พ.ต.ท.ยังมีการให้ความเท็จ จึงอยากให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปรับปรุงตัวบุคคลในสำนักงาน รวมถึงต้องพิจารณาว่า มีใครสั่งการให้การอันเป็นเท็จเพื่อจะมาล้างชื่อเสียงตนเอง ส่วนเรื่องอื่นนั้นให้สังคมเป็นคนตัดสินว่าใครผิดถูก