สุรินทร์ - สหกรณ์ วัน วัน วัน เมืองช้าง นำกลุ่มสมาชิกเกษตรกรหันปลูกข้าว “นาถุง” นวัตกรรมการทำนาแบบใหม่ของชาวนาไทยยุค 4.0 เผยลองผิดลองถูกมา 3 ปีจนประสบผลสำเร็จ ระบุตอบโจทย์ทุกข้อ ทั้งได้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าการทำนาทั่วไปถึง 2-3 เท่าตัว ใช้พื้นที่น้อยปลูกได้ทุกแห่ง ลดต้นทุนเมล็ดพันธุ์ ตัดปัญหาข้าวปลอมปน และเป็นข้าวเกษตรอินทรีย์ 100% คุณภาพสูง
วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สหกรณ์ วัน วัน วัน จำกัด บ้านนาสาม ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ กลุ่มสมาชิกสหกรณ์แห่งนี้ประสบผลสำเร็จในการทำนาข้าวปลอดการปลอมปนและเป็นข้าวอินทรี ย์100% ซึ่งเป็นการทำนาที่ไม่เหมือนใคร โดย น.ส.ณชณฆ์ ตรงใจ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม วัน วัน วัน และที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน จำกัด ได้นำสมาชิกในกลุ่มปรับเปลี่ยนการทำนาแบบทั่วไป มาเป็นการ “ทำนาถุง” และจากการลองผิดลองถูกกว่า 3 ปี จนประสบผลสำเร็จในการเพาะปลูก ได้ผลผลิตต่อไร่มากกว่าการทำนาทั่วไป ถือเป็นนวัตกรรมการทำนาแบบใหม่ของชาวนาไทยยุค 4.0
สำหรับขั้นตอนการ “ทำนาถุง” ไม่ยุ่งยาก ใส่ดินลงไปในถุงดำหนาไม่เจาะรูขนาด 9 คูณ 18 นิ้ว ปากกว้าง 12 นิ้ว ที่เตรียมไว้ โดยใส่ดินเกือบเต็มถุงเผื่อดินยุบ ปากถุงพับให้แข็ง ดินที่ใช้เป็นดินจากทุ่งนา หรือดินที่มีสารอาหารธรรมชาติ หากไม่มีให้ใช้ดินผสมกากมะพร้าว จากนั้นใส่ปุ๋ยอินทรีย์เม็ด ซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพที่ทางสหกรณ์ผลิตขึ้นเองแล้วคลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำมาใส่ถุงที่เตรียมไว้แล้วนำเมล็ดข้าวพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ผ่านการคัดอย่างดี หยอดลงไปถุงละ 3 เมล็ด ใช้เวลา 3 วันเมล็ดข้าวจะงอกขึ้นมา 3 ต้นต่อถุง ทิ้งไว้ 15 วัน เมื่อเมล็ดงอกจึงรดน้ำและนำไปวางไว้ที่กลางแจ้งประมาณ 20 วัน แล้วเติมปุ๋ยอินทรีย์ลงไปเพื่อให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้เร็ว
พร้อมหมั่นดูแลน้ำในถุงที่ปลูกต้องให้แช่สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร อย่าให้เยอะเกินไป โดยต้นข้าวจะแตกกอเติบโตดีมากและดูแลง่าย ใช้พื้นที่ปลูกได้ทุกแห่งแม้แต่บริเวณที่ว่างหน้าบ้าน เป็นการทำการเกษตรนวัตกรรมใหม่ ด้วยการหยอด ดำ เพาะ และปลูกในถุง ส่วนระยะเวลาการเก็บเกี่ยวอยู่ที่ประมาณ 4 เดือน เช่นเดียวกับการทำนาข้าวทั่วไป
น.ส.ณชณฆ์ ตรงใจ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม วัน วัน วัน และที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน จำกัด กล่าวว่า กลุ่ม วัน วัน วัน เริ่มต้นจากการรวมเครือญาติ และผู้ที่รักในการปลูกข้าว คือชาวนาที่ต้องการปลดแอกชีวิตตัวเองและปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี จากที่เราได้มีการลองผิดลองถูกในหลายรูปแบบ ทั้งนาหว่าน นาดำ นาโยน นาหยอด และทำการเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด จนตอนนี้ยังไม่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องข้าวปลอมป่นได้ ซึ่งในบ้านเรากำลังเป็นปัญหาทำให้คุณภาพผลผลิตตกต่ำ รวมไปถึงการใช้สารเคมีมากขึ้น และปัญหาแมลงศัตรูพืช
ทางกลุ่มเลยลองมาปลูกข้าวโดยใช้ภาชนะในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถัง บ่อปูน บ่อซีเมนต์ หรือภาชนะที่เลิกใช้แล้ว จนที่สุดมาหยุดที่ “ข้าวนาถุง” ซึ่งข้าวนาถุงประโยชน์ คือ แก้ปัญหาข้าวปลอมป่นจากสายพันธุ์อื่นได้100 % ซึ่งที่เห็นเป็นการปลูกข้าวนาถุงเพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว และเป็นการปลูกแบบอินทรีย์ ประโยชน์ที่ 2 คือ เกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์สามารถทำได้เลย และประโยชน์ที่ 3 คือ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่นาน้อย ที่ดินน้อย บ้านอยู่ในเมือง สามารถปลูกหน้าบ้านแทนไม้ดอกไม้ประดับได้ ถือว่าเป็นการทำนาข้าวที่ประหยัดและลดต้นทุนเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ดีมาก
น.ส.ณชณฆ์ กล่าวต่อว่า ขั้นตอนการปลูกข้าวนาถุง ถือว่าง่ายมาก ขั้นตอนแรกคือการเตรียมถุง ซึ่งเป็นถุงดำหนาไม่เจาะรู ต้องสั่งจากโรงงานโดยตรงเป็นถุงที่ใช้สำหรับชำต้นไม้โดยตรง จากนั้นให้เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์ ซึ่งทางกลุ่มได้ใช้เมล็ดพันธุ์จากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุรินทร์ ข้าวหอมมะลิ กข 105 เพราะอัตราการงอกสูงถึง 98% จากที่ทดลองมา และทางกลุ่มมีปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพเข้ามาช่วยในการเพิ่มผลผลิต โดยไม่ใช้สารเคมีเลย
การปลูกเราสามารถใช้เมล็ดพันธุ์ปลูกได้เลยและปลูกโดยการเพาะต้นอ่อนแล้วนำมาปลูกลงในถุง 1 ถุง ใช้เมล็ดพันธุ์แค่ 1-3 เมล็ดเท่านั้น ประหยัดเป็นอย่างมาก ซึ่งข้าวที่ปลูกทั่วไป เช่น นาหว่านปกติใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวอยู่ 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ นาดำ 10 กิโลกรัม นาหยอด 8 กิโลกรัม แต่นาถุงที่ทำอยู่ 1 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 3 ขีดเท่านั้น ประหยัดมาก กลุ่มวันวันวัน ได้มีการทดลองปลูกข้าวนาถุงมาแล้วปีนี้เป็นปีที่ 3 ปีนี้ถือเป็นปีที่ดี ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มได้ผ่านการเข้าประกวดข้าวได้รับรางวัลทั้งระดับประเทศและระดับจังหวัดมาแล้ว ปีนี้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานได้เข้ามาร่วมดูและประเมินการผลิตข้าวนาถุงได้อย่างชัดเจน
สำหรับผลผลิต ใช้พื้นที่ปลูก 1ไร่ต่อ 4,000 ถุง 1 ถุงได้ผลผลิตประมาณ 2-3 ขีด ซึ่งหมายความว่า 1ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 800-1200 กิโลกรัม ต่างจากทั่วไปผลผลิตข้าวหอมมะลิอยู่ที่ไร่ละ 400 กิโลกรัม เกษตรกรที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาดูงานได้ที่สหกรณ์ วันวันวัน จำกัด บ้านนาสาม ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
นายธนาบูรณ์ สุขปัญญา ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุรินทร์ กล่าวว่า เห็นได้ว่าการปลูกข้าวในกระถาง หรือในถุง ได้ข้าวที่บริสุทธิ์ ซึ่งทางสหกรณ์ วัน วัน วัน ได้มีการทดลองปลูกข้าวนาถุงจนประสบผลสำเร็จ ซึ่งนอกจากจะได้ผลผลิตที่สูงขึ้นแล้ว จะได้ข้าวที่มีคุณภาพและปลอดสารเคมีอย่างแท้จริงด้วย
สำหรับสหกรณ์ วัว วัน วัน จำกัด นอกจากดำเนินการปลูกข้าวถุงและปลูกข้าวปลอดสารพิษ หรือข้าวอินทรีย์ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งระดับประเทศและระดับจังหวัดมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังดำเนินการทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วย โดยมีการแบ่งพื้นที่ทำการเกษตรอย่างลงตัว ทั้งการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และการอนุรักษ์ป่าในพื้นที่