รอง ผบ.ตร.ศรีวราห์ ควงรองอธิบดีกรมป่าไม้ บุกตรวจบ่อดินทรายใน จ.กาญจนบุรี

กาญจนบุรี - รอง ผบ.ตร.ศรีวราห์ ควงรองอธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจบ่อดินทราย ของบริษัท เอสที เอส โลจิสติกส์ จำกัด หลังสืบทราบว่า ดำเนินการขุดดินทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคุมตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย และยึดของกลางหลายรายการ ก่อนเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อเจ้าของบริษัทต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (8 ส.ค.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ตร.ปทส.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบพื้นที่ขุดดินทรายของ บริษัท เอสที เอส โลจิสติกส์ จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.พังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นของ นายสมาพันธ์ เต่าบำรุง หลังสืบทราบว่า ดำเนินการขุดดินทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานภายใต้กฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฎหมายของกรมป่าไม้ และกฎหมายของกรมที่ดิน ซึ่งหากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า ดำเนินการผิดกฎหมายข้อใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายแต่ละฉบับในทันที

เช่นเดียวกับ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ที่เผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด พบว่า มีการทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.2484 จำนวน 3 งานเศษ และมีการการล้อมรั้วแสดงความเป็นเจ้าของซึ่งถือเป็นพยานวัตถุที่ดี ซึ่งผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุก 15 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ นายสมาพันธ์ เต่าบำรุง ผู้จัดการโรงงาน และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เผยว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของตนเองที่สร้างขึ้นเพื่อให้เช่า ส่วนพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเป็นพื้นที่สระน้ำเพื่อจัดทำน้ำประปา ให้แก่แรงงานชาวพม่า ที่มีอยู่ประมาณ 2,000 คน ได้ใช้ โดยดินทรายที่ขุดได้ก็จะนำไปถมเส้นทางโครงการทวายโปรเจกต์ และแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) และเครื่องจักรที่ใช้ขุดดินบางคันก็ยังไม่เสียภาษี รวมทั้งแรงงานชาวพม่าบางคนก็ยังไม่ขึ้นทะเบียนทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวคนงานที่กำลังขับรถแบ็กโฮ และรถพ่วง 18 ล้อ รวมทั้งรถบรรทุก 10 ล้อ รวม 5 คน พร้อมยึดของกลาง ประกอบด้วย รถแบ็กโฮ จำนวน 3 คัน รถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จำนวน 2 คัน เพื่อทำการตรวจสอบ

เบื้องต้น ได้ดำเนินคดีต่อคนงานทั้ง 5 คน ในข้อหากระทำผิดฐานก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำด้วยประการใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้

ส่วนที่ดินซึ่งบริษัท เอส ที เอส โลจิสติกส์ ใช้ขุดดินทราย เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ นายสมาพันธ์ เต่าบำรุง ต่อไป