ลำปาง - รมช.ศึกษาฯ ขึ้นเวทีเลกเชอร์ครู-นักเรียนเมืองรถม้า ชี้ปัญหาบางโรงเรียนอยู่ที่ไม่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ บอก “หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก” ย้ำให้ ผอ.-รอง ผอ.ต้องเป็นแบบอย่างให้ครูนำไปสอนศิษย์ได้
วันนี้ (7 ส.ค.) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานสืบสานพระราชดำริ “รวมใจชาวลำปาง สืบสานงานพ่อ สานต่องานแม่” ที่ห้องประชุมจังหวัดลำปาง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น สถานศึกษา นักเรียน และกลุ่มชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 2,000 คน
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวรายงานถึงผลการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ หลักทรงงาน หลักการพัฒนา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” หลักการตามแนวทางโครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ ที่นำองค์ความรู้ทั้ง 6 มิติ และหนึ่งภูมิสังคม รวมทั้งหลักการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นกรอบการพัฒนาจังหวัด และขยายผลไปในระดับหมู่บ้าน ชุมชนทุกพื้นที่ใน 13 อำเภอ 272 หมู่บ้านของลำปาง
โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดาได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ศาสตร์พระราชา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยสรุปว่า สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันล้วนมาจากอดีต ดังนั้นทุกคนรวมถึงลูกหลาน เด็กนักเรียน ก็ต้องรู้อดีต เมื่อมาถึงปัจจุบันก็จะนำปัญหาจากอดีตมาแก้ไข เพื่อไม่ให้อนาคตเกิดปัญหา
ส่วนผู้ใหญ่ในวันนี้ก็ถือว่าสำคัญ เพราะจะเป็นแบบอย่างให้เยาวชนลูกหลานเราในวันหน้า อย่าสร้างสิ่งไม่ดีให้เยาวชนนำไปเป็นแบบอย่างที่ไม่ถูกต้อง ไม่ดีงาม ขอให้ทุกคนได้เดินตามรอยพระบาทของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ต้องช่วยกันชี้นำว่าสิ่งไหนเป็นเรื่องที่ถูกต้องดีงาม ยึดหลักคุณธรรมจริยธรรมจรรยา จะทำให้ทุกฝ่ายร่มเย็นเป็นสุข เด็กก็ต้องตั้งใจเรียนเป็นนักการศึกษา หมั่นศึกษาหาความรู้ มีความเพียร ประกอบสัมมาอาชีพซื่อตรง
“ลูกๆ นักเรียนนักศึกษาต้องรักษาคำพุดที่มีต่อครูบาอาจารย์ ตอนนี้ผู้ใหญ่หวังพึ่งพวกท่านมาก ที่ผ่านมาผู้ใหญ่หลายท่านที่เคยได้ทำคุณงามความดีไว้ ความซื่อสัตย์สุจริต ปรัชญาความพอเพียง รู้รักสามัคคี ซึ่งจะสัมพันธ์กับการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เมื่อเรารู้ เราจะเกิดความเข้าใจ เมื่อเรารัก เราจะเข้าถึงได้ในทุกเรื่องด้วยความละมุนละม่อม ด้วยความตั้งอกตั้งใจ เมื่อเราเกิดความสามัคคี องค์กรของเรา ชาติของเราก็จะเกิดความสามัคคี ดังนั้น รู้รักสามัคคี เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ประสานทั้งสามระดับให้เข้าด้วยกันให้ได้”
หม่อมหลวงปนัดดากล่าวอีกว่า อยากให้ทุกคนสร้างความรัก ความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้น เมื่อพูดมาถึงตอนนี้เสียงของหม่อมหลวงปนัดดาสั่นเครือเล็กน้อยแล้วบอกว่า เราเกิดที่นี่ อยู่ที่นี่ และจะตายที่นี่ จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้สังคมของบ้านเราน่าอยู่ และปลอดภัยในวันข้างหน้า ผู้ใหญ่ต้องช่วยเป็นตัวอย่างให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ควรได้เรียน เป็นแบบอย่างที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับลูกหลาน เขาจะได้เรียนแบบอย่างเราเมื่อเราไม่อยู่แล้ว
“คุณพ่อคุณแม่อย่าทะเลาะต่อหน้าลูก เพราะลูกจะเอาเป็นตัวอย่าง เมื่อถึงวันนั้นลูกทำตามเรา พ่อแม่ก็คงไม่สามารถกลับมาห้ามมาสอนลูกได้ว่าอย่าทำ มันไม่ดี ก็คงทำไม่ได้แล้ว ศาสตร์พระราชาสอนให้อ่อนน้อมถ่อมตนจะยิ่งเจริญ นอกจากคนโง่เขลาเท่านั้นที่ดูไม่ออก”
ส่วนโครงการโรงเรียนคุณธรรม ที่ได้สอนไว้เกี่ยวกับเรื่องความพอเพียง ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความมีจริยธรรมคุณธรรม ขอให้ ผอ.โรงเรียนเป็นแบบอย่างให้รอง ผอ., ครูบาอาจารย์ของโรงเรียน, ครูที่เพิ่งบรรจุเข้าใหม่ ทำหน้าที่ที่งดงามให้แก่สังคมไทยให้จงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในสังคมปัจจุบันปัญหาเรื่องคุณธรรมในโรงเรียนเกิดขึ้นมาก แม้แต่ในจังหวัดลำปางด้วย จะมีแนวทางในการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเราต้องมุ่งมั่นกันต่อไป โรงเรียนคุณธรรมที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือ สพฐ. มี 37,000 กว่าแห่ง ขณะที่โรงเรียนของภาคเอกชน อาชีวะ มหาวิทยาลัยเอกชน ได้เข้าร่วมในโครงการนี้ทั้งสิ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
รมช.ศึกษาธิการระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสังคมต้องช่วยกันดูแล ปัญหาผู้บริหาร ปัญหาครู นักเรียนมีความขัดแย้งกัน ก็พยายามนำตัวเลขมาเปรียบเทียบกัน ตัวอย่างนักเรียนอาชีวะที่ขัดแย้งกันก็ลดน้อยลง แต่ก็จะประมาทไม่ได้ ต้องช่วยกันกำกับดูแลต่อไป พฤติกรรมของเด็กก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี ของผู้บริหาร ของครู ที่หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก ครูก็ต้องเลียนแบบท่าน ผอ. เลียนแบบท่านรอง ผอ.
ดังนั้นก็ต้องเป็นแบบอย่างให้ครูนำมาประกอบใช้กับลูกศิษย์ได้ ไม่ใช่ปฏิบัติตัวไปในทางที่ไม่ถูกต้อง กลับกลายเป็นความเสียหายต่อสถาบัน ต่อโรงเรียน ที่ตนเองบริหารจัดการอยู่ เป็นครูอยู่ เสียชื่อ ก็ต้องช่วยกันสร้างความรัก ความหวงแหน และ กศจ.ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ตรวจราชการของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักนายกฯ กระทรวงศึกษาฯ มหาดไทย ช่วยกันตรวจตรา ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์ในอนาคตอันใกล้จะพัฒนาไปในทางบวก คือ ดีขึ้น
ส่วนเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาขณะนี้ ส่วนหนึ่งคือผู้บริหารไม่ได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ใช่หรือไม่ แน่นอนขาดความรับผิดชอบ ความสำนึกโดยพื้นฐาน เพราะข้อเท็จจริงหากทุกคนมีความจริงใจต่อกัน มีความเป็นสุภาพชนต่อกัน เอื้ออาทรต่อกัน ยึดปรัชญาความพอเพียงตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกฏได้ทรงสอนไว้มาตลอด 70 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่พระองค์ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างให้กับคนไทยทั้งแผ่นดิน ถ้าทุกคนสามารถปฏิบัติได้ ไม่เฉพาะครูบาอาจารย์ แต่ครอบคลุมไปถึงข้าราชการทุกหมู่เหล่า บ้านเมืองจะเกิดความร่มเย็นเป็นสุข