อุตรดิตถ์/ตาก - ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำล้น “บึงกะโล่” ทะลักท่วมทางหลวงหมายเลข 11 สายเหนือทั้งขาขึ้น-ขาล่อง ยาวกว่า 200 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังอำนวยความสะดวก-เปิดทางระบายน้ำทั้งวัน ขณะที่น้ำเมย ชายแดนไทย-พม่า ปริ่มตลิ่งแล้ว
วันนี้ (6 ส.ค.) นายประสงค์ อุไรวรณ์ นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์, พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พร้อมกำลังทหาร, อส., เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์, อาสาสมัครกู้ภัย จ.อุตรดิตถ์ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณแยกเข้าบ้านไผ่ใหญ่ หมู่ 9 ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ หรือถนนสาย 11 อุตรดิตถ์-พิษณุโลก หลักกิโลเมตรที่ 313-314 ตลอดทั้งวัน
หลังเกิดฝนตกหนักคืนที่ผ่านมาทำให้น้ำฝนกับน้ำสะสมในบึงกะโล่ไหลท่วมไหล่ถนนขาล่อง 2 ช่องทางจราจร และขาขึ้นเหนือ 1 ช่องทางจราจร ระดับน้ำสูงราว 30 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวราว 200 เมตร ทำให้การจราจรติดขัด
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ต้องระดมเครื่องจักรกลหนักเพื่อเปิดทางน้ำให้เร่งระบายลงคลองจระเข้อย่างเร่งด่วน คาดว่าหากไม่เกิดฝนตกลงมาอีกการจราจรช่วงดังกล่าวก็จะเป็นปกติ แต่หากเกิดฝนตกลงมาอีกก็จะทำให้น้ำท่วมถนน การจราจรก็คงต้องติดขัดกันต่อไป
ส่วนที่จังหวัดตาก หลังมีฝนตกพื้นที่ 5 อำเภอแนวชายแดนติดกับพม่า ส่งผลทำให้แม่น้ำเมย บริเวณต้นน้ำที่บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 อ.พบพระ ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และถนนสายหลักทางเข้าหมู่บ้านสูงกว่า 40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถใช้การใดตามปกติ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรีบขนย้ายสิ่งของหนีน้ำไปเก็บรักษาไว้บนที่สูง เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้เคยถูกน้ำท่วมหนักมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน จนทำให้ชาวบ้านหวาดวิตกกันทั้งหมู่บ้าน
ขณะเดียวกัน แม่น้ำเมยที่เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้ไหลลงสู่พื้นที่ อ.แม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ โดยที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ติดด่านพรมแดนไทย-พม่า ระดับน้ำปริ่มแนวตลิ่ง ส่งผลทำให้การขนส่งสินค้า และการสัญจรทางเรือโดยสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด-ปภ.ต้องจัดเจ้าหน้าที่มาเฝ้าระวัง ตลอด 24 ชั่วโมง
