อุบลราชธานี - ชาวชุมชนริมแม่น้ำมูลต้องใช้เรือเข้า-ออกแทนรถ หลังน้ำในแม่น้ำมูลล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนและถนนเข้า-ออกชุมชนสูง 30-80 ซม. ทหารต้องส่งกำลังพลช่วยลำเลียงเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ของใช้ออกจากบ้านที่ระดับน้ำปรับตัวสูงไปอยู่ในศูนย์อพยพ เผยมีชุมชนต้องอพยพแล้ว 266 ครอบครัว กว่า 900 คน ซึ่งหน่วยงานบรรเทาทุกข์ส่งถุงยังชีพ ยารักษาโรค พร้อมน้ำดื่มน้ำใช้เข้าช่วยเหลือต่อเนื่อง
สถานการณ์แม่น้ำมูล จ.อุบลราชธานี ซึ่งล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานี วันนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอีก 9 เซนติเมตร ทำให้มีระดับน้ำสูง 7.66 เมตร ล้นตลิ่ง 66 เซนติเมตร
โดยอัตราการไหลของน้ำมีความเร็ว 2,696 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เกินความจุที่แม่น้ำมูลตรงจุดนี้รับได้เพียง 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือความสูงของน้ำไม่เกิน 7 เมตร
ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ไหลเข้าท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูล โดยเฉพาะชุมชนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ซึ่งมีระดับตลิ่งต่ำกว่าเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ทำให้ชาวบ้านในชุมชนท่ากอไผ่ หาดสวนสุข หาดสวนยา ดีงาม ท่าบ้งมั่ง เกตุแก้ว ดอนงิ้ว ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำมีน้ำไหลท่วมบ้านเรือนและถนนใช้เดินทางเข้าออกชุมชนไปทำงาน
เพราะรถเล็กทุกชนิดไม่สามารถใช้สัญจรเข้าออกได้ เนื่องจากมีระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-80 เซนติเมตร ต้องใช้เรือในการสัญจรแทน ขณะเดียวกันสำนักงานชลประทานจังหวัดได้นำธงแดงไปติดตั้งแจ้งให้ประชาชนสองฝั่งแม่ให้ทำการอพยพเพิ่มเติม เพราะแนวโน้มระดับน้ำยังสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีน้ำเหนือจากแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีไหลลงมาสมทบจากอิทธิพลของพายุเซินกาอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พล.ต.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม ผบ.พล.ร. 6 ได้มาดูสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นขณะนี้ พร้อมสั่งให้ทหารชุดบรรเทาสาธารณภัยจากกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นำกำลังเข้าช่วยขนย้ายข้าวของให้ประชาชนในชุมชนเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งถูกแม่น้ำมูลล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนเพิ่มเติมอีก 3 ชุมชน รวม 15 ครัวเรือน
คือ ชุมชนวัดสุปัฏนารามวรวิหาร ชุมชนโนนบุ่ง และชุมชนวังสว่าง ไปพักอาศัยยังจุดที่เทศบาลนครอุบลราชธานี จัดให้ใกล้กับชุมชนที่อพยพเพื่อสามารถกลับเข้าไปดูแลบ้านเรือนของตนเองได้เป็นครั้งคราว
ปัจจุบันในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานีมีประชาชนได้รับผลกระทบจากแม่น้ำมูลที่ล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือน 7 ชุมชน และต้องอพยพแล้ว 103 ครอบครัว จำนวน 255 คน
ส่วนในจุดที่ประชาชนยังไม่อพยพและอาศัยอยู่ชั้นที่สองของบ้าน เทศบาลนครอุบลราชธานีได้จัดเรือพลาสติกท้องแบนให้ผู้ประสบภัย นำไปใช้เดินทางเข้าออกบ้านในช่วงนี้ จำนวน 30 ลำ พร้อมตั้งถังบรรจุน้ำขนาด 1,500 ลิตร ให้บริการน้ำใช้อุปโภคบริโภคแก่ชาวบ้านที่เดือดร้อน
ขณะนี้มีประชาชนประสบอุทกภัยต้องอพยพ 266 ครัวเรือน 910 คน ได้แก่ เทศบาลเมืองวารินชำราบ 152 ครัวเรือน 623 คน เทศบาลนครอุบลราชธานี 103 ครัวเรือน 255 คน เทศบาลเมืองแจระแม 7 ครัวเรือน 24 คน ต.บุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ 4 ครัวเรือน 13 คน
