อ่างทอง - ผู้ว่าฯ อ่างทอง เป็นประธานนำปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของบริจาคของชาวอ่างทอง ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสกลนคร
วานนี้ (4 ส.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง (หลังเก่า) นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของบริจาคของชาวจังหวัดอ่างทอง นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย นางทักษณิภร ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธี
นายวีร์รวุทธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ตามที่จังหวัดอ่างทอง ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดสกลนคร ขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2560 โดยตั้งศูนย์รับบริจาคร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง (หลังเก่า) และร่วมกับเทศบาลเมืองอ่างทอง ตั้งศูนย์รับบริจาคบริเวณตลาดสดเทศบาล 2 (หน้าร้านแตงโม) รวมจำนวน 2 จุด
และได้ทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกภาคส่วนร่วมบริจาคเงิน ทรัพย์สิน และสิ่งของสำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดสกลนคร โดยสามารถร่วมบริจาคเงินได้โดยตรงกับศูนย์รับบริจาคเงิน หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาอ่างทอง ซึ่งทางจังหวัดได้ทำการเปิดบัญชีรองรับการรับบริจาคเงินไว้แล้วนั้น
จากการดำเนินงานรับบริจาคเงิน และทรัพย์สินตลอดระยะเวลา 3 วัน ที่ผ่านมา มียอดเงินบริจาค รวมจำนวน 416,000 บาท ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเปิดให้ประชาชนได้ร่วมบริจาคทางสื่อโทรทัศน์
โดยทางจังหวัดอ่างทอง จะนำเงินส่วนหนึ่งไปร่วมบริจาคสมทบกองทุนช่วยเหลือของทางรัฐบาล จำนวน 200,000 บาท ในส่วนที่เหลืออีก 210,000 บาท จะส่งไปช่วยเหลือให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดสกลนคร
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของบริจาครวม จำนวน 9 รายการ ประกอบด้วย ข้าวสาร 295 ถุง น้ำดื่มกว่า 180 โหล ยารักษาโรค อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และผลไม้ (มะม่วงดิบ) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 65,000 บาท ซึ่งตนเองต้องขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมบริจาค และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอ่างทอง ที่ร่วมกันบริจาคเงิน และสิ่งของให้การช่วยเหลือในครั้งนี้
และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการรับบริจาคเงิน และสิ่งของของผู้มีจิตศรัทธา จังหวัดอ่างทอง จึงได้จัดพิธีปล่อยขบวนรถยนต์บรรทุกสิ่งของบริจาค เพื่อนำไปส่งมอบให้แก่จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ และช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป
