xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มอ้างตกใจซิ่งกระบะชนทหารดับ 1 เจ็บ 1 กลางไฟแดงเมืองเชียงใหม่ดอดมอบตัวแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มซิ่งกระบะชนรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงทำให้ทั้งคนขี่และซ้อนซึ่งเป็นทหาร 2 นาย ตาย 1 เจ็บ 1 แถมเฉี่ยวรถเก๋งอีก 1 ได้รับความเสียหาย ทั้งไม่ยอมจอดรถแต่เลยไปดื่มกินต่อจนถูกวิจารณ์กระหึ่มในโลกโซเชียล ล่าสุดยอมขึ้นโรงพักเจรจาคู่กรณีรับผิดชอบเต็มที่

จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถกระบะนิสสัน สีดำ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ขณะจอดติดไฟแดงบริเวณเชิงสะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ สิบเอก ธนธน สามเป็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิต และสิบเอก นิรุต ศรีคำ อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บ และได้เฉี่ยวชนรถเก๋งอีก 1 คันได้รับความเสียหาย โดยหลังเกิดเหตุไม่ได้จอดดูเหตุการณ์หรือช่วยเหลือใดๆ และยังไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จนมีการนำเรื่องราวดังกล่าวพร้อมคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยต่อมาทราบว่าคนขับรถกระบะคันดังกล่าวคือ นายณัฏฐวิทย์ เวียงหก อายุ 31 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (2 ส.ค. 60) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายณัฏฐวิทย์ คนขับรถยนต์กระบะ ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจรจากับทางญาติผู้เสียหาย ซึ่งนายณัฏฐวิทย์ยังคงมีสีหน้าเครียดจัด โดยได้เล่าว่าในวันเกิดเหตุนั้นหลังจากเกิดเรื่องตนรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูก รวมทั้งรู้สึกเสียใจมาก และยืนยันว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อให้เห็นว่าตนไม่ได้ทอดทิ้งหรือนิ่งดูดาย

นายณัฏฐวิทย์กล่าวอีกว่า คืนวันนี้ตนจะเดินทางไปยังวัดหนองแสะ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่เพื่อกราบขอขมาศพ และจะได้นำเงินเยียวยาก้อนแรกเป็นจำนวน 50,000 บาทไปมอบแก่ญาติที่งานศพด้วย และจะไปเยี่ยมสิบเอก นิรุตที่ได้รับบาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลด้วย โดยจะให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อเป็นการเยียวยา ขณะที่เรื่องเงินค่าชดเชย ค่าเสียเวลาอื่นๆ นั้นจะได้มาตกลงกันอีกที

อย่างไรก็ตาม ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เรียกร้องให้นายณัฏฐวิทย์จ่ายเงินค่าชดเชย และค่าเยียวยาเป็นจำนวน 5,000,000 บาท เนื่องจากคนตายเป็นลูกชายคนเดียว ถือเป็นเสาหลักของบ้าน คนดี ขยันขันแข็ง ซึ่งทางด้านนายณัฏฐวิทย์ได้ขอเวลาเพื่อปรึกษาญาติพี่น้อง

สำหรับรถยนต์เก๋งคู่กรณีที่เป็นของนางสุพรรณษา อองศรี อายุ 37 ปี ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้นทางด้านนายณัฏฐวิทย์ได้มีการติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อตรวจสอบความเสียหายของรถคู่กรณีและประเมินค่าซ่อมแซม จากนั้นจะได้มีการนำรถไปซ่อมแซม นอกจากนี้ยังจะต้องจ่ายค่าเช่ารถตามระยะเวลาที่ซ่อม พร้อมค่าทำขวัญ และค่าขาดประโยชน์เสียเวลา รวม 100,000 บาทให้ผู้เสียหายอีกด้วย

ด้าน สิบเอก นิรุต ศรีคำ ซึ่งได้รับบาดเจ็บขาหักนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดเหตุคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค. 60 จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากคู่กรณีเพื่อแสดงความห่วงใยหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย ทำให้เสียความรู้สึกอย่างมาก ทั้งๆ ที่หากเข้ามาพูดคุยแสดงความรับผิดชอบและสำนึกผิดตั้งแต่แรกสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีกว่านี้ โดยเวลานี้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด

นอกจากนี้ สิบเอก นิรุตยอมรับว่าอาการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้กระทบต่อหน้าที่การงานอย่างมาก เพราะรับราชการเป็นทหารและต้องใช้ร่างกายในการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันกระทบต่อการฝึกซ้อมยิงปืนทางยุทธวิธีที่ตัวเองเป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาของต้นสังกัดอยู่ด้วยและกำลังเตรียมตัวที่จะลงแข่งคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศในเร็วๆ นี้ ซึ่งจากนี้ต้องพักรักษาตัวอีกอย่างน้อย 3 เดือน และจากนั้นต้องทำกายภาพบำบัดอีก โดยยอมรับว่าเป็นห่วงว่าจากนี้สภาพร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกแล้ว

อนึ่ง ด้านคดีความนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานายณัฏฐวิทย์ ผู้ต้องหา ว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บ





กำลังโหลดความคิดเห็น