ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มเมาแล้วขับซิ่งกระบะชนจักรยานยนต์ทหารจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุยังไปดื่มเหล้าในสถานบันเทิงใกล้ๆ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมเปิดเผยกับสื่อ อ้างตกใจทำอะไรไม่ถูก ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับความเสียหายทวงถามความรับผิดชอบ-จิตสำนึก หลังชนแล้วหนีไม่ลงมาดูคนเจ็บแถมยังไปกินเที่ยวต่อ
จากกรณีที่มีการรายงานข้อมูลเหตุการณ์คลิปหนุ่มซิ่งกระบะนิสสัน สีดำ ทะเบียน ผอ 901 เชียงใหม่ พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ซึ่งมี สิบเอก นิรุต ศรีคำ อายุ 28 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บ และ สิบเอก ธนธน สามเป็ง อายุ 30 ปี ที่ซ้อนท้ายมาเสียชีวิตที่บริเวณสี่แยกไฟแดงสะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ และนอกจากนี้ยังได้เฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งสีขาว จนได้รับความเสียหายก่อนที่คนขับจะขับรถหลบหนีไปจอดที่บริเวณด้านหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ และในเวลาต่อมาได้มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยญาติและเพื่อนของผู้ตายติดตามไปเจอรถของคนขับ ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณร้าน และกำลังจะทำการยึดรถคันดังกล่าวไปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่ในเวลาต่อมาทางเจ้าตัวได้ออกมาห้ามปรามและได้มีเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้น จนกระทั่งภายหลังได้มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Now Loading Plaese Wait” ได้โพสต์ข้อความ และคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งขณะที่มีปากเสียงกันและคลิปจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ จนทำให้มีหลายเพจดังในโลกโซเชียลแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นและมีผู้พบเห็นโพสต์อย่างกว้างขวางกระหน่ำวิจารณ์และแชร์เรื่องราวกระทั่งกลายเป็นเหตุใหญ่อยู่ในขณะนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (1 ส.ค. 60) คนขับรถกระบะคันดังกล่าวที่ปรากฏภายในคลิปวิดีโอทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฏฐวิทย์ เวียงหก อายุ 31 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อเจรจากับทางญาติผู้เสียหายรวมทั้งรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าของวันที่ 31 ก.ค. 60 ที่ผ่านมาได้เดินทางมาแล้วครั้งหนึ่ง
โดยในวันนี้ทางนายณัฏฐวิทย์ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบความเสียหายของรถคู่กรณีและประเมินค่าซ่อมแซม และเซ็นเอกสารรับทราบข้อกล่าวหาที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าตัวระบุว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตามที่เป็นคลิปปรากฏไปในโลกโซเชียลและเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักนั้นทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจและเครียดมาก ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นหลังจากเกิดเรื่องตนก็รู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูก และรู้สึกเสียใจมากหลังจากเห็นข่าว ซึ่งตนยืนยันว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้กับสิ่งที่อีกฝ่ายเกิดความสูญเสียไป เพื่อให้เห็นว่าตนไม่ได้ทอดทิ้งหรือเมื่อเกิดเหตุแล้วจะนิ่งดูดาย ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็นอนไม่หลับ และพยายามติดต่อทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ประกัน เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายให้กับอีกฝ่าย
ส่วนกระแสโซเชียลที่ปรากฏในตอนนี้ ซึ่งตนยอมรับว่าจากคลิปที่เผยแพร่กันตอนนี้เมื่อทุกคนเห็นก็จะมองว่ามันไม่ดีแน่นอน แต่ตนก็อยากให้มองกลับกันว่าขณะที่เกิดเหตุนั้นทำให้ตนเกิดความตกใจ ซึ่งถ้าหากคิดจะหนีในวันเกิดเหตุ ตนก็จะกลับบ้านหรือหลบหนีไปไกลจากที่เกิดเหตุ แต่หลังเกิดเหตุตนแค่ไปจอดเพื่อตั้งสติ ประกอบกับโทร.หาคนสนิท ซึ่งระหว่างนั้นพี่ชายของตน (ชายเสื้อดำในคลิป) ได้อยู่ที่สถานบันเทิงที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุพอดี และตนก็ไม่ได้ไปนั่งดื่มสุราต่อแต่อย่างใด และไม่ทราบด้วยว่าขณะที่ชนนั้นคู่กรณีได้เสียชีวิตหรือไม่ แต่ที่ไปคือเข้าไปเล่าเหตุการณ์ให้พี่ชายฟัง โดยส่วนตัวนั้นตนก็ยอมรับผิด ส่วนในกรณีของพี่ชาย (เสื้อดำ) ตนขอไม่พูดถึงเนื่องจากเกรงจะเกิดผลกระทบขึ้น อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนก็รู้สึกเสียใจมาก และยังคงเกิดความเครียดกับกระแสข่าวที่โจมตีในขณะนี้ โดยหลังจากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอีกวันตนก็รีบเข้ามาพูดคุยกับทางญาติผู้ตายซึ่งเป็นพ่อของ สิบเอก ธนธน สามเป็ง และญาติของ สิบเอก นิรุต ศรีคำ ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ขณะที่ต่อมา นายถนอม สามเป็ง อายุ 58 ปี พร้อมด้วย นางสาวแพรวาณัชค์ พัชรปิยมาศ อายุ 28 ปี พ่อและน้องสาวของผู้ตาย รวมทั้งกลุ่มผู้เสียหาย ได้เดินทางมายัง สภ.แม่ปิงเพื่อเจรจากับฝั่งคนชน และตกลงเรื่องการรับใช้ค่าเสียหาย แต่ปรากฏว่านายณัฏฐวิทย์ เวียงหก ผู้ขับรถกระบะชนที่ได้มาก่อนหน้านี้เดินทางกลับก่อนโดยไม่รอทางฝ่ายผู้เสียหายแต่อย่างใด
โดยอ้างว่ารู้สึกมีอาการเครียด และไม่อยากให้สัมภาษณ์นักข่าวที่มารอทำข่าวจำนวนมาก แต่สุดท้ายทางกลุ่มผู้เสียหายก็ได้พยายามโทร.ติดตามตัวเพื่อให้กลับมาพูดคุยเจรจาให้รู้เรื่อง ซึ่งทางเจ้าตัวรับปากว่าจะเข้ามาพูดคุยอีกครั้ง ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีกับทาง นายณัฏฐวิทย์ เวียงหก เบื้องต้น ร้อยตำรวจเอก วิเชียร ปากกล้า พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิดต่อไป
ด้านนางสาวแพรวาณัชค์ พัชรปิยมาศ และนายถนอม สามเป็ง น้องสาวและพ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า สิบเอก ธนธนถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นบุตรชายเพียงคนเดียว ที่ผ่านมาคอยช่วยเหลือจุนเจือดูแลทุกคนในครอบครัวอย่างดี เมื่อทราบข่าวร้ายทุกคนต่างอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ และยังตกใจเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ทางฝั่งผู้ก่อเหตุกลับไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ และเมื่อเห็นภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดว่าผู้ก่อเหตุเมื่อขับชนแล้วก็หนีโดยไม่สนใจ แล้วยังไปนั่งดื่มกินสุราต่อได้เหมือนไม่มีความรู้สึก ยิ่งทำให้ทางครอบครัวรู้สึกแย่ นอกจากนั้น เมื่อหลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่พบตัวแล้วกลับไม่มีการควบคุมตัวทันทีกลับปล่อยตัวไป ทำให้ยิ่งมีความสงสัยในระบบของกฎหมาย
สำหรับการตรวจสอบรถที่เกิดเหตุนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้เข้าตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่เก็บหลักฐานต่างๆ ทั้งลายนิ้วมือแฝง ลักษณะของการเฉี่ยวชนเพื่อนำไปประกอบคดี