น้ำปาวเอ่อท่วมโรงเรียนเชียงสาฯ ทหารจัดกำลังช่วย

กาฬสินธุ์ - ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ เร่งช่วยครู-นักเรียนโรงเรียนเชียงสาศิลปสถาน อ.ยางตลาด ขนย้ายข้าวของพร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังน้ำ หลังเขื่อนลำปาวสุดอั้น เร่งระบายน้ำออก 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

วันนี้ (1 ส.ค. 60) พ.ท.กันฑภณ จันทะนันท์ ผบ.ม.7 พัน.14 พร้อมด้วย ร.อ.ศิวะ สุวานิช ผบ.ร้อย.รส.จว.กส., ร.ต.ประธาน ประไชโย หัวหน้าชุดปฏิบัติการพื้นที่ กกล.รส.จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังทหาร 20 นาย เข้าตรวจสอบเส้นทางน้ำที่เอ่อล้นท่วมถนนภายในบ้านเชียงสา หมู่ 9 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ภายหลังจากเขื่อนลำปาวระบายน้ำเป็นวันละ 30 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่เย็นวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา

ทำให้ระดับน้ำสาขาทั้งลำน้ำปาวและลำน้ำพานเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะที่โรงเรียนเชียงสาศิลปสถาน ถนนหน้าโรงเรียนระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร ส่วนภายในโรงเรียนมีระดับน้ำอยู่ที่ 80 เซนติเมตร และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ


นายอำนาจ หารัญดา ผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงสาศิลปสถาน กล่าวว่า ขณะนี้นักเรียนลำบากมาก ต้องใช้เรือท้องแบนและรถทหารรับส่งมาโรงเรียน ทั้งช่วงนี้กำลังเตรียมตัวสอบจึงไม่อยากปิดโรงเรียน ต้องประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้นำชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากสถานการณ์น้ำไม่น่าไว้วางใ จะสั่งปิดทันทีเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร คาดว่าระดับน้ำท่วมจะสูงกว่าปี 2554 ทำให้ระดับน้ำท่วมในโรงเรียนจะสูงกว่า 1 เมตร ทั้งนี้ได้ขนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 ของอาคารเรียน เบื้องต้นยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น


ด้าน ร.อ.ศิวะ สุวานิช ผบ.ร้อย.รส.จว.กส. กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชน ทหารได้เข้ามาในพื้นที่ทันที พร้อมจัดทีมตระเวนสำรวจระดับน้ำ ทำแนวกั้นสัญลักษณ์ป้องกันเกิดอุบัติเหตุตามแนวถนนและจุดเสี่ยงน้ำลึก โดยมี พ.ท.กันฑภณ จันทะนันท์ ผบ.ม.7 พัน.14 อำนวยการสั่งการอย่างใกล้ชิด เร่งขนย้ายสิ่งของไปไว้ที่ปลอดภัย อำนวยความสะดวกจัดรถรับส่งนักเรียน จากการลาดตระเวนพบว่าระดับน้ำเชี่ยวมาก ทั้งยังเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนนี้ได้วางกำลังพลจัดเวรยามร่วมกับ อปพร.หมู่บ้าน เพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉินหากน้ำเอ่อสูง รวมถึงเตรียมอพยพประชาชนออกจากพื้นที่

สำหรับพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากยังมีมวลน้ำไหลเข้ามายังเขื่อนลำปาว จนทำให้ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณอยู่ที่ 1,678 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 85 จากความจุอ่างที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม. ส่วนการระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เพื่อรักษาสภาพของเขื่อนลำปาวที่เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ โดยพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างออกเรื่อยๆ คาดว่าเฉพาะพื้นที่การเกษตรนาข้าวในเขตชลประทานจะเสียหายประมาณ 180,000 ไร่