xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ “กมล คันธา” จำเลยทุจริตซื้อที่ดินโรงฆ่าสัตว์เทศบาลอุดรฯ เบี้ยวฟังฎีกา ศาลนัดใหม่ 12 ก.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จำเลยที่ 1 นายณณชัย หรือหาญชัย ฑีฆธนานนท์ อดีตนายกเทศบาลนครอุดรธานี
อุดรธานี - ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำตัดสินรอบ 2 คดีอดีตนายกเล็ก “หาญชัย” พร้อมพวกทุจริตซื้อที่ดินโรงฆ่าสัตว์วงเงิน 18.7 ล้านบาท หลังจำเลยที่ 3 เบี้ยวนัดอ้างป่วยเข้าโรงหมอ ศาลกังขาจงใจหลบหนีออกหมายจับ พร้อมสั่งปรับนายประกันต้องจ่ายภายใน 15 วัน นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 12 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 13 ศาลแขวงอุดรธานี ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ครั้งที่ 2 คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินบ่อบำบัดน้ำเสีย โรงฆ่าสัตว์เทศบาลนครอุดรธานี ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ด้วยการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ เนื้อที่ 68-3-38 ไร่ วงเงิน 18.7 ล้านบาท ในวงเงินที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 83

ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 นายณณชัย หรือหาญชัย ฑีฆธนานนท์ อดีตนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี, จำเลยที่ 2 นายบุญฤทธิ์ สีทา ข้าราชการบำนาญ, จำเลยที่ 3 นายกมล คันธา ข้าราชการ (หัวหน้าฝ่ายนิติกร เทศบาลนครอุดรธานี), จำเลยที่ 4 นายไพศาล โชติพิทยสุนนท์ ข้าราชการบำนาญ, จำเลยที่ 5 นางเบญจา คูณกลาง ข้าราชการบำนาญ, จำเลยที่ 6 นางศรีประไพ คำสุพรหม ข้าราชการ และจำเลยที่ 7 นายห่าง แซ่แต้ อาชีพค้าขาย (ถึงแก่กรรม)

สำหรับคดีดังกล่าว ศาลจังหวัดอุดรธานีมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2554 จำคุกจำเลยที่ 1, 2 และ 3 คนละ 5 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 4, 5, 6 และ 7 มีเหตุบรรเทาทุกข์ จำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญาเช่นกัน

ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 ยืนตามศาลชั้นต้นศาลจังหวัดอุดรธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ก.ค.) มีจำเลยเดินทางมารับฟังคำพิพากษา 5 คน คือ จำเลยที่ 1, 2 , 4, 5 และ 6 ส่วนจำเลยที่ 3 ได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางมายื่นขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากป่วยด้วยอาการโรคหัวใจ และเข้ารับการรักษากะทันหันที่โรงพยาบาลเอกอุดรเมื่อคืนที่ผ่านมา

หลังจากนั้นถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม พร้อมแนบใบรับรองแพทย์มา 2 ฉบับ แนะนำให้รักษาอย่างต่อเนื่องกับแพทย์โรคหัวใจโดยตรงทันที เนื่องจากอาจมีภาวะอื่นที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าใบรับรองแพทย์ทั้ง 2 ฉบับไม่ระบุว่ามีอาการป่วยเพียงใดถึงขั้นไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ซึ่งโรคดังกล่าวผู้ป่วยต้องทำการรักษาต่อเนื่องอยู่แล้ว หากไม่ทำการรักษาจะถึงขั้นเสียชีวิต เป็นการอธิบายโดยทั่วไปไม่ได้ระบุชัดเจน มีอาการหนักมากน้อยเท่าใด จนไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ หากเดินทางมาศาลจะถึงแก่ชีวิตหรือไม่

ศาลมีเหตุให้ควรสงสัยว่าหลบหนีหรือจงใจไม่มาฟังคำพิพากษา จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 3 และปรับนายประกันเต็มตามสัญญา และออกคำสั่งบังคับให้นายประกันมาเสียค่าปรับภายใน 15 วัน ทั้งนี้ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 12 กันยายน 2560 เวลา 09.00 น.

กำลังโหลดความคิดเห็น