นครปฐม - เปิดของแปลกแต่สุดอร่อย “ข้าวหลามสูตรทุเรียน” ของอร่อย คิดสูตรเองจากต่อยอดจากสูตรถั่วดำ มะพร้าวน้ำหอมกว่า 20 ปี เป็นหนึ่งของดีตลาดซอย 2 หรือตลาดสายหยุด สมัยรัชกาลที่ 4 ยอดขายวันละนับพันกระบอก เริ่มขายตั้งแต่เวลาตี 3 ถึง 10 โมงเช้า
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ตลาดเทศาซอย 2 เขตเทศบาลนครนครปฐม หรือชื่อเดิมคือ ตลาดสายหยุด เป็นตลาดเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 อายุนับร้อยปี เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้านานาชนิด โดยมีของอร่อยทั้งของสด และของแห้ง หนึ่งในนั้นมีข้าวหลามทุเรียน ของดีของอร่อยประจำตลาดซอย 2
โดย นางอ้อย เกตุคำ อายุ 48 ปี เป็นชาวตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี แม่ค้าผู้สืบทอดการค้าขายข้ามหลาม จากมารดา คือ นางชำนาญ ศิริสวัสดิ์ อายุ 84 ปี ซึ่งได้ปักหลักขายข้าวหลาม ทั้งสูตรถั่วดำ มะพร้าว และทุเรียน มากว่า 20 ปีแล้ว
นางอ้อย อายุ 48 ปี บอกว่า ที่ผ่านมาได้ทำสูตรข้าวหลามวางขายก็จะเหมือนๆ กันกับแม่ค้าทั่วๆ ไป เช่น ข้าวหลามถั่วดำ ข้าวหลามไส้สังขยา เพียง 2 อย่างเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้เขาได้มีการพัฒนาด้วยการคิดสูตรทำข้าวหลามสูตรใหม่ขึ้นมาอีก 2 ชนิด นั่นก็คือ ข้าวหลามสูตรมะพร้าวน้ำหอม และข้าวหลามสูตรทุเรียนถั่วดำ แรกๆ ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายสามารถได้สูตรที่ลงตัว และได้รสชาติที่อร่อย จึงทดลองทำนำมาวางขายดู ผลจากการตอบรับของลูกค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อยมาก
ขณะนี้สมาชิกในครอบครัวต่างต้องช่วยกันผลิตข้าวหลามเพิ่มขึ้นอีก 2 ชนิด รวมแต่ละวันจะต้องเผาข้าวหลามให้ได้ประมาณ 1,200 กระบอก โดยจะมีลูกค้าขาประจำจากกรุงเทพมหานคร และทั่วไปมารับที่ตลาดซอย 2 ทุกวัน เพื่อไปขายอีกทอดหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็จะวางขายที่ตลาดซอย 2 ประมาณ 200 กระบอก ซึ่งก็ขายหมดทุกวัน หรือไม่พอขายในบางครั้งด้วย
นางอ้อย บอกอีกว่า ตนเองยึดอาชีพนี้นับว่าเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว สูตรดั้งเดิมก็คือ นางชำนาญ และที่ตนเองเลือกทำเลขายข้าวหลามที่ตลาดซอย 2 นครปฐม ก็เนื่องจากจังหวัดนครปฐม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนต่างชาติ และทั่วไปที่มาเที่ยวชมกราบไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ และทำบุญ อีกทั้งตลาดซอย 2 แห่งนี้ก็เป็นตลาดเก่าแก่ เป็นตลาดที่ค่อนข้างคึกคัก ตนจึงมีลูกค้าประจำ และเป็นที่กล่าวขานกันว่า หากจะกินข้าวหลามที่อร่อยเข้มข้นถูกใจ ต้องมาซื้อที่ร้านนางอ้อย เท่านั้น
สำหรับกลุ่มลูกค้ามีการมาซื้อไปขายสร้างกำไรโดยไม่มีปัญหา ก็เพราะกระบวนการทำข้าวหลามที่นี่จะเน้นของเรื่องรสชาติ ปริมาณ และความสะอาด เอากำไรไม่มาก แต่ทำจำนวนมาก ไม้ข้าวหลามที่นี่จะเลื่อยวันต่อวัน จะไม่เลื่อยทิ้งกองเอาไว้ ดังนั้น จึงมั่นใจได้เลยว่า จะไม่มีตะขาบ หรือแมลงสาบ อยู่ในเนื้อข้าวหลามอย่างแน่นอน
นางอ้อย กล่าวว่า สำหรับราคาขายนั้นมีตั้งแต่กระบอกละ 10-35 บาท ส่วนข้าวหลามมะพร้าวน้ำหอม และข้าวหลามทุเรียน จะทำขนาดใหญ่เพียงขนาดเดียว จึงขายกระบอกละ 60 บาท โดยในแต่ละวันเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วก็จะพอมีกำไรวันละประมาณพันกว่าบาท หรือมีรายได้เดือนละประมาณ 30,000-40,000 บาท สามารถส่งให้ลูกเรียนจนจบปริญญาตรีได้สบายๆ