บุรีรัมย์ - อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ น้ำทะลักท่วมหนักสุดในรอบ 20 ปี กระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากซัดบ้านพัง 3 หลัง หญิงเจ้าของบ้านถึงกับร่ำไห้เก็บข้าวของหนีไม่ทันแทบหมดตัว ทั้งมีบ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องอพยพข้าวของหนีไปขออาศัยกับญาติ และวัดชั่วคราว ถนนเชื่อมต่อหมู่บ้าน ตำบลถูกตัดขาดหลายสาย อำเภอ อปท.เร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือ
วันนี้ (29 ก.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มวลน้ำจากลำพังชู จ.มหาสารคาม ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และถนนหลายสายในเขตพื้นที่ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะบ้านกอก หมู่ 9 ต.พุทไธสง ถูกน้ำหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จนต้องพากันอพยพข้าวของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล แต่บางครัวเรือนไม่สามารถขนของหนีน้ำได้ทันจมเสียหาย
จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ต้องไปขออาศัยกับญาติ เพื่อนบ้าน และวัดชั่วคราว นอกจากนี้ กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากยังพัดบ้านเรือนราษฎรทรุดพังเสียหายอีก จำนวน 3 หลัง โดยเฉพาะบ้านของ นายพงษ์ศักดิ์ มาลาหอม อายุ 44 ปี และนางฐานิตา มาลาหอม อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งมีอาชีพรับตัดเย็บรองเท้าส่งขาย ได้ถูกกระแสน้ำพัดอย่างแรงจนตัวบ้านทรุดพังเกือบทั้งหลัง ทั้งไม่สามารถขนย้ายข้าวของ หรือทรัพย์สินมีค่าออกมาจากบ้านได้เลย โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาชีพตัดเย็บรองเท้าถูกพัดหายไปกับกระแสน้ำ ซึ่งหากรวมทั้งตัวบ้าน ทรัพย์สิน และข้าวของที่เสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
นอกจากนั้น น้ำยังได้หลากท่วม และกัดเซาะถนนเชื่อมต่อหมู่บ้าน ตำบล พังเสียหาย และถูกท่วมสูงจนถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้อีกหลายสายด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ ขณะที่ทางอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อรับเรื่องร้องเรียน อำนวยความสะดวกขนย้ายข้าวของ สัตว์เลี้ยง จัดหน่วยแพทย์ให้บริการตรวจรักษา และจัดเวรยามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งชาวบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งนี้ถือว่าน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 20 ปี
นางฐานิตา มาหอม เจ้าของบ้านที่ถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า กระแสน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว และเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกพากันเก็บข้าวของขึ้นที่สูงไว้แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมถึง แต่จากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากอย่างรุนแรง ได้พัดตัวบ้านทรุดพังเกือบทั้งหลังแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของหนีน้ำได้ทัน บางส่วนลอยหายไปกับกระแสน้ำจนไม่เหลืออะไร จากความเดือดร้อนดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งช่วยเหลือด้วย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวแทบหมดตัว