สุรินทร์ - ชาวบ้าน 5 หมู่บ้าน ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ รวมตัวไล่เจ้าอาวาสวัดพ้นวัด และจับสึก หลังจับได้แอบดื่มสุราบ้านญาติโยมก่อนเข้าวัด แถมชาวบ้านยังถ่ายคลิปยืนยันในสภาพเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่พอถึงเวลาสึกกลับไม่พบตัว คาดย่องหนีจากวัดไปตั้งแต่ช่วงกลางคืน
วันนี้ (27 ก.ค. ) ที่วัดกลางบ้านสังขะ ม.4 ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ชาวบ้านจาก 5 หมู่ ประกอบด้วย บ้านสังขะ 3 หมู่บ้าน, บ้านท่าเตียน ม.8 และบ้านโคกดงยาง ม.16 จำนวนกว่า 200 คน นำโดยนายจิรกิตย์ ศรีใสย์ กำนันตำบลสังขะ ร่วมกันลงชื่อขับไล่พระครูวิมล กิตติสาโร อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านสังขะ รองเจ้าคณะตำบลเขต 2 หลังสุดทนพฤติกรรมชอบลักลอบดื่มสุรามานาน
พฤติการณ์ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 25ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. กำนันตำบลสังขะ ผู้ใหญ่บ้านสังขะ คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้าน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.สังขะ อ.สังขะ จับได้คาหนังคาเขาขณะพระครูวิมลอยู่ในอาการเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง อยู่ภายในกุฏิภายในวัดกลางบ้านสังขะ หลังกลับจากไปดื่มสุราที่บ้านของนายโฮม สมันยา บ้านภูมิขนุน ต.ดม อ.สังขะ แต่พระวิมลไม่ยอมรับว่าตนเองเมาและไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
กำนันและชาวบ้านได้ถ่ายคลิปพระวิมลขณะเมาสุรา ทั้งพูดจาไม่รู้เรื่องไว้เป็นหลักฐาน เช้าวันนี้ (27ก.ค.) ชาวบ้านจึงรวมตัวกันลงชื่อขับไล่เจ้าอาวาสออกจากวัด และนิมนต์พระครูโคษิต รัตนโชติ เจ้าคณะตำบลสังขะ เขต 2 พร้อมทั้งเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ ต.สังขะ ให้มารับทราบร่วมกัน ก่อนจะมีมติให้ประกาศปาราชิกให้พระสงฆ์รูปดังกล่าวขาดจากการเป็นพระสงฆ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สังขะ คอยสังเกตการณ์ และรักษาความสงบเรียบร้อยภายในวัด
แต่เมื่อถึงเวลาที่พระวิมลจะลาสิกขา กลับไม่พบตัวเจ้าอาวาสขี้เมารายนี้ คาดว่าจะหลบหนีออกจากวัดไปแล้วตั้งแต่กลางดึกวันที่ 26 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา
นายจิรกิตติ์ ศรีใสย กำนันตำบลสังขะ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 25ก.ค.ที่ผ่านมา ตนและผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ตำรวจสายตรวจ และชาวบ้าน เข้ามาเป็นพยานร่วมกัน หลังพบเจ้าอาวาสอยู่ในสภาพเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง เนื่องจากเมาหนัก เมื่อทุกคนมาถึงก็เห็นเจ้าอาวาสนอนอยู่ภายในกุฏิ สอบถามก็พูดจาไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา จึงสอบถามนายโฮม สมันยา ผู้ที่มากับเจ้าอาวาส บอกว่าเจ้าอาวาสไปดื่มเหล้าขาวที่บ้านของตน ใกล้กับบ้านภูมิขนุน ต.ดม อ.สังขะ
เจ้าอาวาสได้ดื่มสุรากับภรรยาของตน แต่พอกลับมาถึงวัดเจ้าอาวาสก็ไม่สามารถประคองตัวเองเดินได้ ตนและคนขับรถให้เจ้าอาวาสจึงช่วยพยุงเจ้าอาวาสเข้าไปนอน ซึ่งเจ้าคณะตำบลได้ตัดสินแล้วว่าให้พระวิมลพ้นจากการเป็นพระสงฆ์ ก็คือปาราชิก และท่านบอกอีกว่าพระสงฆ์รูปนี้ปาราชิกนานแล้ว เพราะว่าพระสงฆ์รูปนี้ปฏิบัติตัวแบบนี้มาหลายปีแล้ว แต่ชาวบ้านยังหาหลักฐานมายืนยันและเอาผิดไม่ได้
