ศรีสะเกษ/บุรีรัมย์ - เร่งอพยพชาวบ้านใน อ.กันทรลักษ์หนีน้ำท่วม พื้นที่เกษตรจมน้ำแล้ว 11 ตำบล 54 หมู่บ้าน รวมเนื้อที่กว่า 11,000 ไร่ ด้านผู้ว่าฯ ศรีสะเกษสั่งทุกส่วนราชการเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ เน้นรักษาชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่เขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง รับน้ำได้อีกกว่าร้อยละ 30 แต่ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายวันนี้ (27 ก.ค.) ที่บริเวณถนนระหว่างบ้านตาทวด-บ้านโดนอาว ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักเข้าท่วมถนนเป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กม. ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ทหารต้องนำรถยีเอ็มซีมาช่วยในการรับส่งชาวบ้าน และน้ำป่ายังได้ไหลทะลักเข้าไปท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องพากันขนข้าวของสัตว์เลี้ยงหนีน้ำท่วมไปอยู่บนที่สูงกันอย่างโกลาหล ซึ่งระดับน้ำได้ท่วมสูงเร็วมาก
ขณะเดียวกัน บริเวณถนนห่างจากสี่แยกบ้านโดนอาวไปยังบ้านหนองอุดมประมาณ 100 เมตร น้ำได้เซาะใต้ถนนเป็นรูขนาดใหญ่ และถนนใกล้จะพังลงมา เจ้าหน้าที่ได้นำสัญญาณจราจรมาติดตั้งเพื่อเตือนไม่ให้รถขนาดใหญ่วิ่งผ่านบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าถนนจะพังลงทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ส่วนที่บริเวณถนนสายบ้านภูมิซรอลไปยังบ้านสำโรงเกียรติ อ.ขุนหาญ บริเวณบ้านโคกเจริญ น้ำป่าได้เข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านและได้เอ่อท่วมถนนระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ชาวบ้านต้องพากันเลี่ยงไปใช้เส้นทางสายอื่นแทน
พร้อมทั้งอพยพชาวบ้าน ทรัพย์สินของมีค่าไปอยู่ศูนย์อพยพที่ทางราชการได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครองได้เข้ามาทำการอพยพชาวบ้านหนีน้ำท่วม เกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตรายจากน้ำท่วม ไร่นาสวนยางพาราจำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากมาก
นายประหยัด สุขจิต ผู้ใหญ่บ้านโคกเจริญ ม.6 ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักและน้ำจากน้ำตกวังใหญ่ได้ไหลทะลักลงมาตามลำห้วยขะยูง เข้ามาท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันนี้ (27 ก.ค. 60) ระดับน้ำได้ท่วมสูงอย่างรวดเร็วมาก ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถที่จะเก็บข้าวของทรัพย์สินมีค่าหนีน้ำท่วมได้ทัน ต้องปล่อยให้ข้าวของจมใต้น้ำเสียหายจำนวนมาก
นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอกันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ โดยหมู่บ้านของตนมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวน 4 หลัง โรงสี 2 หลัง
นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอกันทรลักษ์ บอกว่า น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักได้ไหลทะลักท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านในเขต อ.กันทรลักษ์ รวมทั้งสิ้น 3 ตำบล คือ ต.รุง ต.ละลาย และ ต.ภูผาหมอก มีน้ำท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านรวมทั้งสิ้น 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านโคกเจริญ บ้านโคกแจแล ต.ละลาย บ้านคลองทราย ต.รุง บ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก ซึ่งหมู่บ้านที่โดนน้ำท่วมหนักที่สุดคือบ้านโคกแจแล มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมหลายสิบหลังคาเรือน
ตนได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาช่วยกันอพยพชาวบ้านจำนวน 25 ครัวเรือนไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง อบต.ละลาย ส่วนสัตว์เลี้ยงได้นำไปไว้ที่บ้านของกำนัน ต.ละลาย เนื่องจากว่าเป็นที่สูงมากน้ำท่วมไม่ถึง
นายเกริกชัยกล่าวต่ออีกว่า สำหรับพื้นที่ทางการเกษตรนั้น ขณะนี้ถูกน้ำป่าท่วมจำนวนทั้งสิ้น 11 ตำบล 54 หมู่บ้าน รวมเนื้อที่ประมาณ 11,000 ไร่ ส่วนมากแล้วเป็นไร่นาและสวนยางพาราของชาวบ้าน สำหรับสาเหตุที่น้ำท่วมหนักในครั้งนี้เนื่องจากว่ามีฝนตกหนักต่อเนื่องกันนานกว่า 5 วัน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักไหลลงไปในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 อ่างของ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งน้ำมีปริมาณเกินกว่าความจุของอ่างและได้ไหลทะลักล้นอ่างลงมาตามลำห้วยขะยูง มาท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้าน
“ขณะนี้ฝนกำลังตกต่อเนื่อง น้ำกำลังไหลทะลักเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ซึ่งผมได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยงข้องเฝ้าระวังระดับน้ำตลอดเวลาและเตรียมพร้อมที่จะอพยพหนีน้ำท่วมได้ทันที”
นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ตนได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ ทั้งกำลังคน เครื่องจักรกลทุกชนิด โดยตนได้สั่งการให้ช่วยเหลือดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรจะเข้าไปดูแลช่วยเหลือต่อไป โดยขณะนี้มีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 3 อำเภอ คือ อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ และ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่ง อ.กันทรลักษ์ถูกน้ำท่วมได้รับผลกระทบหนักมาก ซึ่งจะได้ทำการประกาศเขตที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมดเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และจะได้ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมอย่างเต็มที่ต่อไป
เขื่อนลำนางรองระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง
รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำนางรอง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของ จ.บุรีรัมย์มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีน้ำกักเก็บ 77 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 64 ของปริมาณความจุอ่าง 121 ล้านลูกบาศก์เมตร ภายหลังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นแต่ยังเหลือพื้นที่ที่ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่าร้อยละ 30 แต่ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรองยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากมีปริมาณน้ำสูงถึงร้อยละ 80 ของความจุอ่างก็จะพิจารณาพร่องน้ำหรือระบายน้ำออกเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองมะนาว ซึ่งเป็นอ่างขนาดเล็กมีความจุอ่างเพียง 2.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 73 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความจุอ่าง
นายสุพัฒน์ ฤทธิชู ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรองมีเขื่อนขนาดใหญ่ และอ่างเก็บน้ำอยู่ในความดูแล 4 อ่าง คือ เขื่อนลำนางรอง อ่างเก็บน้ำคลองมะนาว อ่างเก็บน้ำลำปะเทีย และอ่างเก็บน้ำลำจังหัน ซึ่งหลังจากมีฝนตกต่อเนื่องก็ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงระดับกักเก็บ และขณะนี้ก็ยังไม่จำเป็นจะต้องพร่องน้ำออกเพราะยังเหลือพื้นที่รับน้ำได้อีก อย่างไรก็ตาม ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมให้สำรวจตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำด้วย