พาดูชาวท่าข้ามปลูกโกงกางป้องกันกัดเซาะตลิ่งตามแนวนวัตกรรมใหม่

ฉะเชิงเทรา - ชาวตำบลท่าข้าม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปลูกป่าโกงกางป้องกันการกัดเซาะตลิ่งตามแนวนวัตกรรมใหม่ โดยใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นเกราะป้องกันโคลน และรากเพิ่มอัตราการรอด จากเดิมที่กล้าไม้ใหม่มักยืนต้นตายจากการถูกเพรียงเกาะติดเนื้อไม้ดูดกินสารอาหารรอบลำต้น

วันนี้ (26 ก.ค.) ชาวบ้าน ม.6 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งนำโดย นางสมจิตร์ พันธ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าข้าม พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน ได้ร่วมกันจัดทำกิจกรรมในการปลูกป่าชายเลนด้วยนวัตกรรมใหม่ 4.0 ในการป้องกันโคลน และรากไม้ เพื่อเพิ่มอัตราการรอดของต้นกล้าไม้ใหม่ไม่ให้ถูกเพรียงเกาะติดเนื้อไม้จนต้องยืนต้นตายเหมือนในอดีตที่เคยมีการจัดทำโครงการปลูกป่าชายเลนในยุคที่ผ่านๆ มา

ด้วยการใช้กระบอกไม้ไผ่ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลม เจาะทะลวงตาไม้ให้โล่งเปิดออกสวมทับห่อหุ้มเข้าที่โคนต้นกล้าไม้เอาไว้ เพื่อเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เพรียงเข้ามาเกาะติดเนื้อไม้ที่โคนต้นกล้าจนต้องยืนต้นตาย และช่วยทำให้ลำต้นมีความแข็งแรงในการยึดเกาะกับผืนดินเลนได้ดีกว่า และทนต่อการกัดเซาะของคลื่นน้ำไม่ให้ลำต้นกล้าที่ปลูกใหม่ล้มลงไปตามกระแสลม และคลื่นน้ำได้ง่าย ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่อีกรูปแบบหนึ่งที่ยังไม่เคยมีที่ใดเคยทำมาก่อน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดสร้างหมู่บ้านปลา ด้วยการใช้ลำไม้ไผ่เจาะรูด้านข้าง จากนั้นร้อยด้วยเชือกไนลอน ก่อนที่จะคลายเกลียวเชือกให้เป็นพุ่ม และปักลงไปภายในน้ำที่บริเวณชายตลิ่งเป็นซั้งเชือก เพื่อให้ฝูงปลาได้เข้ามาอยู่อาศัย ทั้งยังเป็นการช่วยชะลอคลื่นน้ำที่ซัดเข้ามาบริเวณแนวชายตลิ่งอีกวิธีหนึ่งด้วย

โดย นางสมจิตร์ กล่าวว่า โครงการปลูกป่าโกงกางป้องกันการกัดเซาะตลิ่งนี้ได้ทำการทดลองปลูกป่าด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ขึ้นที่บริเวณชายฝั่งริมแม่น้ำบางปะกง ภายในวัดทองนพคุณ หรือวัดบางแสม พื้นที่ ม.6 ต.ท่าข้าม เป็นแห่งแรก และยังไม่เคยมีที่ใดเคยทำมาก่อนในประเทศ

โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนในการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์จากทางโรงไฟฟ้าบางปะกง ที่ให้การช่วยเหลือทำโครงการมาทำการปลูกป่าป้องกันการกัดเซาะตลิ่งในครั้งนี้ และมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน เช่น กรมทหารราบที่ 112 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ ตลอดจนชาวบ้านได้เข้ามาร่วมกันทำกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น