กาญจนบุรี - ทหารพม่าถอนกำลังจากด่านเจดีย์สามองค์แล้ว หลังพอใจผลการเจรจา ยุติการขยายถนนจนกว่าจะหมดหน้าฝน พร้อมหาแนวทางเปลี่ยนทางน้ำไหล ส่วนถนนพื้นที่พิพาทให้ย้ายเครื่องจากออกทั้งหมด รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และ นอภ.สังขละบุรี เตรียมเข้าหารือ รอง ผวจ.จัดสรรงบประมาณอย่างเร่งด่วน
วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยที่ 97 อำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า พร้อมอาวุธครบมือประมาณ 20 นาย นำโดย พ.ท.อ่องซัน ผบ.ร้อย ที่ 97 ได้มายืนตรึงกำลังอยู่ที่หน้าด่านฝั่งอำเภอพญาตองซู ติดกับหน้าด่านประเทศไทยบริเวณจุดผ่อนปรนชั่วคราวบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่แขวงการทางจังหวัดกาญจนบุรี นำเครื่องจักรไปขยายถนนบริเวณด่านชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ จาก 2 เลน เป็น 4 เลน โดยช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่อำเภอพญาตองซู มีลักษณะภูมิประเทศที่ต่ำกว่าพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมากวาดเอาดินโคลนไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนอำเภอพญาตองซู ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง เพื่อหาทางออกร่วมกันเจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งไทย และพม่า จึงนัดหมายเจรจากันในช่วงเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ว่า เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.ฝอ.ภ.จว.กาญจนบุรี ช่วยราชการ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่แขวงการทางจังหวัดกาญจนบุรี ที่รับผิดชอบก่อสร้างขยายถนน
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานชายแดนไทย-พม่า และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี เดินทางข้ามชายแดนไปยังฝั่งอำเภอพญาตองซู เพื่อเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ฝั่งพม่าโดยมี พ.อ.เมียวโท้ วิน ผบ.บก.ยศ.2 รวมทั้งนายอำเภอพญาตองซู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอำเภอพญาตองซู การเจรจาหาทางแก้ไขใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
สรุปผลการเจรจาในการแก้ไขปัญหา โดยให้ฝ่ายไทยหยุดดำเนินการก่อสร้างขยายถนนออกไปก่อน เพราะเกรงว่าหากยังดำเนินการอยู่อาจจะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ดังเดิม และให้รอไปจนกว่าจะจะหมดฤดูฝน เมื่อหมดหน้าฝนก็ให้เริ่มดำเนินการขยายถนนต่อไปได้ แต่ก่อนดำเนินการก็จะมาเจรจาตกลงกันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนพื้นที่ถนนที่อยู่ในเขตพิพาทบริเวณทางโค้งเขาคอนโด และพื้นที่พิพาทจุดอื่นที่มีเครื่องจักรก็จำเป็นจะต้องหยุดดำเนินการ และขนย้ายเครื่องจักรออกไปจากพื้นที่ และระหว่างที่ฝนยังตกลงมา ทางเจ้าหน้าที่ฝั่งพม่า ขอให้ฝั่งไทยเร่งดำเนินการหาแนวทางเปลี่ยนทางน้ำไหลทั้งฝั่งซ้ายและขวาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ซึ่งการดำเนินการเปลี่ยนทางน้ำนั้นต้องใช้งบประมาณ ซึ่งวันพรุ่งนี้ 27 ก.ค.ตน พร้อมด้วยนายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี จะเข้าประชุมหารือร่วมกับ นายรณชัย จิตรวิเศษ รอง ผวจ.กาญจนบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหางบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างเส้นทางเปลี่ยนทางน้ำไม่ให้ไหลไปท่วมพื้นที่อำเภอพญาตองซู เชื่อว่าการประชุมในวันพรุ่งนี้คงจะได้ข้อสรุปเรื่องงบประมาณ
พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้เจรจาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาจนเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศพม่า ในที่สุดก็ได้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกลับไปประจำการ ณ ที่ตั้งทั้งหมด และประชาชนในพื้นที่ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช่นกัน