ฉะเชิงเทรา - คณะวุฒิสมาชิก จากราชอาณาจักรกัมพูชา ยอมรับการปฎิบัติที่ดีต่อแรงงานของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ พร้อมนำกลับไปเป็นต้นแบบในการยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชน และพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งพัฒนากระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา
นายมั่น เชือน สมาชิกสภากัมพูชา และประธานกลุ่มมิตรภาพวุฒิสภากัมพูชา-ไทย กล่าวในระหว่างนำคณะวุฒิสมาชิกกัมพูชา เดินทางไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตของโรงงานแปรรูปสุกรของซีพีเอฟ และศึกษาแนวทางปฏิบัติที่ดีต่อแรงงาน เพื่อนำต้นแบบในการติดตามการจัดจ้างที่ถูกต้องกฎหมาย และปฎิบัติตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล
พร้อมรับทราบสภาพการทำงาน และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมการผลิตอาหารปลอดภัยได้มาตรฐานสากล เพื่อนำไปยกระดับภาคเกษตร และการแปรรูปอาหารของกัมพูชา ให้ผู้บริโภคชาวกัมพูชาได้เข้าถึงอาหารปลอดภัยคุณภาพสูงมากขึ้น
คณะวุฒิสมาชิกกัมพูชา เดินทางมาศึกษาดูงานในประเทศไทยหลายด้านครั้งนี้ในฐานะแขกของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเข้าเยี่ยมแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในโรงงานแปรรูปสุกร ของซีพีเอฟ และศึกษาการปฏิบัติที่ดีต่อแรงงาน ตลอดจนกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยที่ทันสมัย เพื่อนำความรู้ที่ได้กลับไปต้นแบบในการพัฒนาและยกระดับความทันสมัยของภาคการเกษตรและอาหารแปรรูป
“ซีพีเอฟเป็นต้นแบบที่ดีทั้งทางด้านการผลิตอาหารคุณภาพ ปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ มีองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเลี้ยงสัตว์ ที่เราสามารถนำไปยกระดับภาคปศุสัตว์ของกัมพูชา รวมถึงเรียนรู้การดูแลแรงงานที่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนของซีพีเอฟก็มีความสำคัญต่อประเทศกัมพูชาที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นต้นแบบสำหรับภาคการผลิตของประเทศกัมพูชาให้ปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเสมอภาค ได้มาตรฐานสากลต่อไป” นายมั่น เชือน กล่าว
นายมั่น เชือน กล่าวต่อว่า ประเทศกัมพูชากำลังพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม การเรียนรู้สิ่งที่ดีๆ จากประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ทั้งเรื่องการผลิตอาหารปลอดภัยทั้งห่วงโซ่ การดูแลแรงงานที่ดีของภาคเอกชน
จึงเป็นประโยชน์ที่จะนำไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาภาคเกษตร และการผลิตอาหาร โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์ในกัมพูชาให้มีมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อประชากรกัมพูชาทั้งประเทศ 15 ล้านคน ได้สามารถเข้าถึงอาหารคุณภาพสูง และปลอดภัยมากขึ้น ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจประเทศกัมพูชากำลังเติบโต มีการลงทุนด้านต่างๆ การศึกษา การพัฒนาฝีมือแรงงาน และการปฏิบัติต่อแรงงานที่ดีจากซีพีเอฟ
“ดีใจ และสบายใจที่ได้เห็นพี่น้องชาวกัมพูชาที่ทำงานกับซีพีเอฟทุกคนได้รับการจัดจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการปฏิบัติที่เสมอภาคและเท่าเทียม ทุกคนได้เงินเดือน และสวัสดิการเหมือนกับแรงงานคนไทย แต่ละคนสามารถเก็บเงินส่งให้ครอบครัวได้เดือนละ 4,000-10,000 บาท ซึ่งต้องยอมรับว่า มีส่วนช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวกัมพูชาให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายมั่น เชือน กล่าว
“จากการพูดคุยกับพี่น้องชาวกัมพูชา จึงมีความมั่นใจว่า ซีพีเอฟเป็นต้นแบบของผู้ประกอบการไทยที่มุ่งมั่นการผลิตอาหารที่ได้มาตรฐานสากลเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัย พร้อมกับให้ความใส่ใจ และปฏิบัติต่อแรงงานชาวกัมพูชาอย่างเท่าเทียม เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน” นายมั่น เชือน กล่าว
“จากการเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้ว ซีพีเอฟ ได้เรียนรู้ต้นแบบการผลิตอาหารที่ได้มาตรฐาน และการบริหารจัดการแรงงานสอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลของซีพีเอฟ เพื่อไปใช้พัฒนาภาคการผลิตอาหารของประเทศ และพี่น้องชาวกัมพูชาได้พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เป็นแรงงานคุณภาพที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย และรองรับการเติบโตทางภาคการผลิตของประเทศกัมพูชาในอนาคตอีกด้วย” นายมั่น เชือน กล่าว
นายนิธิวัชร์ จิรายุธัญวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ โรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้ว ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญต่อกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ส่งเสริมให้ผู้บริโภคไทย และทั่วโลกได้บริโภคอาหารคุณภาพสูง ปลอดภัย ควบคู่กับยึดมั่นปฏิบัติต่อแรงงานทุกคนในห่วงโซ่การผลิตอาหารอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ตามความมุ่งมั่นที่ประกาศไว้ในนโยบายสิทธิมนุษยชนของบริษัท และสอดคล้องตามแนวทางสหประชาชาติว่าด้วยการดำเนินธุรกิจและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งมาตรฐานแรงงานไทย
ในขณะที่บริษัทฯ ส่งเสริมและสนับสนุนให้คู่ค้าธุรกิจ และเกษตรกรในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยทูตด้านแรงงาน สถานทูตกัมพูชายังได้มาเยี่ยมชมการปฏิบัติต่อแรงงานต่างชาติของโรงงาน และโรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้ว ยังได้รับเกียรติบัตรยกย่องกระทรวงแรงงาน ประเทศกัมพูชา เป็นองค์กรต้นแบบในการดูแลแรงงานต่างชาติที่ดี ถูกต้อง และสอดคล้องตามสิทธิมนุษยชน