ตราด - อิทธิพายุ “เซินกา” ทำหลายพื้นที่ใน จ.ตราด อ่วม ทั้งต้นไม้ล้มขวางถนน เสาวิทยุล้มใส่บ้านเรือนประชาชน น้ำท่วมขัง ไฟฟ้าดับในหลายตำบล ขณะที่มูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประมินได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (24 ก.ค.) ได้เกิดพายุฝนลมแรงจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เซินกา” ทั่วทั้ง จ.ตราด จขนส่งผลให้หลายพื้นที่มีต้นไม้ล้มขวางถนนจนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะถนนสายตราด-แหลมงอบ บริเวณบ้านแหลมมะขาม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด มีต้นไม้ 2 ต้น ล้มขวางถนนทั้ง 2 ช่องจราจร ทำให้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรลน่า สีเขียว พุ่งชนต้นไม้ที่ล้มจนรถพังเสียหาย ส่วนคนขับไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด และยังมีรถจักรยานยนต์อีกคันพุ่งชนต้นไม้จนคนขับได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมงอบ เทศบาลน้ำเชี่ยว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันตัดต้นไม้ที่ล้มขวางทางถนน ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสำเร็จ ท่ามกลางรถยนต์ รถจักรยานยนต์กว่า 50 คัน ที่จอดรอให้เจ้าหน้าที่เคลียร์ที่เกิดเหตุ
จากการสำรวจความเสียหายในหลายจุดของ จ.ตราด ยังพบว่า เสาวิทยุสื่อสารที่สูงกว่า 80 เมตร ภายในสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด ล้มหักโค่นใส่บ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเสียหาย 4 หลัง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินค่าได้
นายอำนาจ สร้อยสีดา อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและหลานๆ กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงลมแรง และมีฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ก่อนจะได้ยินเสียงดังจากหลังคาบ้าน เมื่อออกมาดูพบว่า หลังคาบ้านเสียหาย เพราะถูกเสาวิทยุสื่อสารล้มใส่
อย่างไรก็ตาม สมาคมกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือ จ.ตราด ได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า ยังมีอีกหลายจุดที่เกิดเหตุต้นไม้ล้ม น้ำท่วมขังผิวจราจร ไฟฟ้าดับในหลายตำบล รวมไปถึงบ้านเรือนประชาชนที่ ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด ได้รับความเสียหายจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เซินกา”
นอกจากนั้น พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.คลองใหญ่ ยังได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านประชาชนในพื้นที่ ม.9 บ้านคลองจาก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จึงประสานรถดับเพลิง อบต.คลองใหญ่ เทศบาลตำบลคลองใหญ่ เทศบาลตำบลหาดเล็ก พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญธรรมสถาน เขตคลองใหญ่ เข้าระงับเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นชุมชนที่บ้านเรือนติดกัน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำรถดับเพลิงเข้าไปได้ จึงต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่นำสายฉีดน้ำลากสายเข้าไปฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
น.ส.กชกร สังข์ทอง เจ้าของบ้านบอกว่า ก่อนเกิดเหตุได้เกิดพายุลมแรง และมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ไฟฟ้าในเขต อ.คลองใหญ่ ดับหลายชั่วโมง จึงต้องจุดเทียนเพื่อส่องสว่างภายในบ้าน และตั้งไว้ใกล้ที่นอนจึงเกิดเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว