ตาก - ตำรวจคุมตัวผัวหนุ่ม-เมียสาวชาวพม่า ทำแผนฆ่าโหดหนุ่มแม่สอด ผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงมานาน ทิ้งศพเปลือยคาบ้าน รับให้เมียดูต้นทางก่อนเข้าไปเยี่ยม สบโอกาสใช้มีดแทงไม่ยั้ง ก่อนปาดคอซ้ำ ชาวบ้าน-ญาติแค้นฮือรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ขับฝ่าวงล้อม
วันนี้ (21 ก.ค.) พ.ตงอ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.แม่สอด จ.ตาก, พ.ต.ท.เกรียงเดช ชัยบรรณ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สภ.แม่สอด ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน-นอกเครื่องแบบ กว่า 20 นาย ควบคุมตัวนายซอนิน (นามสมมติ) อายุ 19 ปี และนางสาว ซาฮี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี สองคนร้ายชาวพม่า เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันวางแผนฆ่าชิงทรัพย์นายจิรวัฒน์ จิ๋วเจริญ อายุ 45 ปี นักธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง อดีตพนักงานบริษัทใหญ่ชายแดนแม่สอด จนเสียชีวิต ทิ้งศพตายเปลือยภายในบ้านพักหลังใหญ่ภายในหมู่บ้านแม่สอดวิวล่า เขตเทศบาลนครแม่สอด
โดยมีจัดกำลังตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนา ป้องกันกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตและอยู่ในอาการโกรธแค้นเข้าประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา และเมื่อตำรวจนำสองผู้ต้องหาลงจากรถ กลุ่มไทยมุงต่างตะโกนสาปแช่งสองผู้ต้องหาต่างๆ นานา จนตำรวจต้องรีบกันกลุ่มชาวบ้านออกห่างจากแนวรั้วบ้านเกิดเหตุเพื่อป้องกันความวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีเหตุบานปลาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายซอนิน นางสาวซาฮี (นามสมมติ) เข้าไปทำแผนภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต โดยมีเพียงญาติผู้หญิงของผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ร่วมสังเกตการณ์ทำแผนในครั้งนี้
เบื้องต้น นายซอนินให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตมานานกว่าหนึ่งปีเศษ โดยผู้เสียชีวิตได้ให้การอุปการะตนและภรรยา อายุ 15 ปี มาโดยตลอด จนผู้ตายไว้เนื้อเชื่อใจให้เข้าออกบ้านพักได้โดยสะดวก กระทั่งคืนเกิดเหตุตนร่วมกับภรรยาที่ถูกจับกุมวางแผนเพื่อชิงทรัพย์ โดยทำทีเข้าไปหานายจิรวัฒน์ที่บ้านพักตอนกลางคืน เมื่อสบโอกาสที่ผู้ตายเผลอเดินเข้าห้องนอนจึงใช้มีดปลายแหลมที่เตรียมมาตรงเข้ากระหน่ำแทงไปที่ลำตัวและลำคอของผู้ตายถึง 6 แผล จนนายจิรวัฒน์ดิ้นทุรนทุราย เลือดพุ่งเต็มพื้นห้อง ก่อนจะเข้าไปปาดคอเหยื่อซ้ำอย่างใจเย็นเพื่อให้แน่ใจเหยื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
หลังจากนั้นตนเองได้ส่งสัญญาณให้ภรรยาที่เฝ้าดูต้นทางหลบหนี พร้อมชิงเอาจักรยานยนต์ของผู้ตายที่จอดอยู่โรงจอดรถหน้าบ้านขับหลบหนีออกจากบ้านพักของผู้ตายแล้วนำไปขายที่แนวชายแดนไทย-พม่า ก่อนย้อนกลับเข้ามากบดานหลบซ่อนตัวที่บ้านพักใกล้กับตลาดแม่สอด จนถูกตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด จับกุมตัวไว้ได้
อย่างไรก็ตาม หลังการทำแผนคดีสุดโหดแล้วเสร็จก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นระหว่างที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวสองผู้ต้องหาออกจากบ้านหลังเกิดเหตุนั้น ชาวบ้าน กลุ่มเพื่อน และญาติของผู้ตายที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้นสุดขีดต่างวิ่งเข้าไปจะรุมประชาทัณฑ์สองผู้ต้องหาจนเกิดการชุลมุลไปชั่วขณะ ตำรวจต้องรีบเข้าห้ามปรามก่อนจะรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์รีบขับฝ่าวงล้อมฝูงชนออกจากจุดเกิดเหตุกลับ สภ.แม่สอด โดยทันที
เบื้องต้นสองผู้ต้องหาที่ก่อคดีสังหารโหดผู้มีพระคุณในครั้งนี้ ถูกนำตัวส่งดำเนินคดีในข้อหาหนัก คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันชิงทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินคดีต่อไป