อุทัยธานี - ชาวแพเมืองอุทัยธานีร้องระงม เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำทำระดับน้ำสะแกกรังลดฮวบแบบไม่ทันตั้งตัว ลากแพลงร่องน้ำลึกไม่ทัน จนลูกบวบแพพัง-กระชังปลาเกยตื้นระนาว
กรณีเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้ระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่องทำให้แม่น้ำสะแกกรังที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี ตั้งแต่บ้านคลองสะแกกรัง วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ไปจนถึงพระยาไม้รีสอร์ต ลดระดับลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ จนชาวแพสองริมฝั่งแม่น้ำตั้งตัวไม่ทันและชักลากเรือนแพลงร่องน้ำลึกไม่ได้ จำนวนกว่า 20 หลัง เนื่องจากระดับน้ำลึกเพียง 50 ซม.เท่านั้น ส่งผลให้ลูกบวบไม้ไผ่ที่ใช้พยุงแพลอยน้ำติดค้างแห้ง บางแพถึงกับติดค้างบนเนินดินได้รับความเสียหาย ส่วนเรือนแพที่ยังสามารถชักลากลงร่องน้ำลึกได้ก็เร่งถอยเรือนแพลงกลางแม่น้ำเพื่อป้องกันลูกบวบไม้ไผ่ทุ่นลอยน้ำของแพไม่ให้แตกเสียหาย
ขณะที่กระชังปลาที่เลี้ยงไว้กระชังก็เกยตื้นกันหลายกระชัง โดยเฉพาะช่วงกลางวันอากาศร้อนปลาจะทยอยตายเป็นจำนวนมาก เนื่องอยู่ในระดับน้ำที่ตื้นมากเพียง 50 ซม.เท่านั้น
นายสมพงษ์ ทองใบ อายุ 45 ปี ชาวแพคลองสะแกกรัง เล่าว่า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้จะกระทบต่อชาวบ้านชุมชนชาวแพจำนวนเกือบ 200 ครอบครัว ตลอดจนผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์น้ำการเลี้ยงปลาในกระชังซึ่งเป็นอาชีพหลักทำรายได้ของชุมชนชาวแพได้รับความเสียหายไปด้วย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นเพื่อเร่งหาวิธีแก้ไข ทำอย่างไรที่จะเพิ่มระดับน้ำให้สูงขึ้นเพื่อที่จะชักลากเรือนแพลงร่องน้ำลึก ป้องกันไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ เพราะถ้าน้ำแห้งเป็นเวลานาน ลูกบวบลอยแพเสียหายจะต้องซ่อมแซมซึ่งจะต้องใช้เงินถึงหลังละ 4-5 หมื่นบาท
“ขอให้ช่วยแจ้งเตือนชาวแพ โดยเฉพาะเวลาน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้เร่งชักลากแพไปกลางร่องน้ำลึก ซึ่งที่ผ่านมาจะการแจ้งเตือนเพียงระดับน้ำเพิ่มขึ้น และไหลเชี่ยวแรง เราก็จะชักลากแพเข้าหาฝั่งป้องกันความเสียหาย แต่พอน้ำลงกลับไม่มีการแจ้งเตือน จึงทำให้แพเกิดค้างแห้งจนแพฉีกลูกบวบแพเสียหาย”