เชื่อมหกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ทำ ศก.พัทยากระเตื้อง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ตอบรับงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ คาดเศรษฐกิจเมืองพัทยากระเตื้องจากกำลังพลที่เตรียมยกพลขึ้นบกกว่า 10,000 นาย พร้อมขายภาพด้านการท่องเที่ยวสู่สากล ขณะที่ คสช.ย้ำขอความร่วมมือจัดตั้งศูนย์อำนวยการ เน้นเรื่องความปลอดภัยระดับสูงสุด

บ่ายวันนี้ (20 ก.ค.) ในการประชุมทำงานติดตามความคืบหน้างานมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน ที่มี นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุม ร่วมกับผู้แทนกองทัพเรือ ผู้บริหารเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตัวแทนภาคธุรกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นั้น

ในที่ประชุมได้มีสรุปรูปแบบการจัดงาน และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ 13-19 พฤศจิกายน 2560 ในพื้นที่เมืองพัทยา และบริเวณอ่าวไทย ซึ่งกิจกรรมหลักประกอบด้วย การฝึกผสมแบบพหุภาคี ทร.อาเซียน พิธีเปิดมหกรรมทางเรือนานชาติ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน และในวันที่ 18 พฤศจิกายน จะเป็นกิจกรรมสวนสนามทางเรือ ในช่วงเช้า โดยในช่วงบ่าย จะเป็นการสาธิตปฏิบัติการ และพาเหรดทางบก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวปัจจุบันมี ผบ.ทร.และนายทหารระดับสูงตอบรับเข้าร่วมแล้วกว่า 27 ประเทศ โดยแต่ละประ เทศได้มีการส่งเรือรบ 21 ลำ อากาศยาน 2 เครื่อง จาก 15 ประเทศ ที่จะรวมแสดงในวันดังกล่าว

ทั้งนี้ ในที่ประชุม พล.ต.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบพื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้มีการสอบถามเรื่องของที่พักกำลังพลที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมสวนสนามทางเรือ พร้อมเตรียมความพร้อมอย่างสูงสุดเกี่ยวกับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์อำนวยการ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นหน้าตาของประเทศ

ขณะที่ นายสรรเพชร ศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก (THA) ได้เสนอให้มีการจัดสถานที่เข้าพักในสถานประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบด้านข้อมูล พร้อมจัดหาห้องพักให้หากคณะจัดงานมีความต้องการ เบื้องต้น ได้มีการเสนอแนะให้คณะจัดงานเร่งประสานเรื่องที่พักเพราะหากล่าช้าเกรงจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงไฮซีซัน ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนยังเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก ขณะที่กำลังพลจากนานาประเทศที่จะเข้าร่วมงานนั้นคาดว่าจะมีจำนวนนับหมื่นนาย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเมืองพัทยากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง และยังเป็นโอกาสอันดีในการเผยแพร่เมืองพัทยาออกไปสู่สากล