xs
xsm
sm
md
lg

ล่าไอ้หื่น บุกทำร้ายข่มขืนผู้ช่วยเหลือคนไข้ถึงโรงพยาบาลหนองคาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นพ.ศุภชัย จรรยาผดุงพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย
หนองคาย - ผู้ช่วยเหลือคนไข้สาวโรงพยาบาลหนองคายถูกคนร้ายใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้า ถือมีดข่มขู่ชกใบหน้าจนฟันหักสองซี่ใบหน้าฟกช้ำ ลากตัวไปด้านหลังอาคารหลังโรงพยาบาลข่มขืน คนร้ายกระโดดปีนกำแพงรั้วหลบหนี ตำรวจเร่งไล่ล่า ออกหมายจับแล้ว ค้นประวัติสุดแสบเคยก่อเหตุฆ่าคนตายและข่มขืนมาก่อน



วันนี้ (18 ก.ค. 60) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกายข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.เอ นามสมมติ อายุ 25 ปี ผู้ช่วยเหลือคนไข้โรงพยาบาลหนองคาย บริเวณซอกตึกด้านหลังอาคารสำนักงานซักฟอก ซึ่งเป็นตึกอยู่ด้านหลังของโรงพยาบาลหนองคาย โดย นพ.ศุภชัย จรรยาผดุงพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย นำเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบรอยคราบเลือดติดอยู่บริเวณผนังอาคารสำนักงานซักฟอกและขอบหน้าต่าง
นายปุ้มปุ้ย เกษานุช อายุ 24 ปี คนร้ายข่มขืนผู้ช่วยเหลือคนไข้ ที่ยังหลบหนี
นพ.ศุภชัยได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายบริเวณสำนักงานซักฟอก จึงรีบเข้าตรวจสอบ พบว่า น.ส.เอ ซึ่งเป็นพนักงานจ้างในตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายใช้กำลังบังคับกระทำอนาจาร ชกใบหน้าจนฟกช้ำ ฟันหัก 2 ซี่ สภาพจิตใจบอบช้ำ จึงได้ให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว และทางโรงพยาบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยืนยันระบบการรักษาความปลอดภัยของทางโรงพยาบาลว่ามีมาตรการที่เข้มงวดแล้ว

จากการสอบถามและตรวจจากกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลพบว่ามีคนร้ายเป็นชายสวมกางเกงขาสั้น เสื้อคลุมสีเทา รองเท้าแตะ สะพายเป้สีดำ ใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้า พกมีดเหน็บที่ขอบกางเกง เดินเข้ามาภายในตึกผู้ป่วยพิเศษ ช่วงเวลาประมาณ 19.59 น. แต่ระบบของโรงพยาบาลจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าอาคารหลัง 20.00 น. ส่วนของเจ้าหน้าที่จะใช้ระบบคีย์การ์ดเข้าออก เมื่อคนร้ายเข้าไปในอาคารผู้ป่วยพิเศษและพยายามจะเข้าไปในส่วนปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

มีพยาบาลคนหนึ่งเห็นท่าทางไม่ค่อยดีจึงได้ล็อกประตูห้องไม่ให้คนร้ายเข้าไป พร้อมทั้งสอบถามว่ามาเยี่ยมใคร คนร้ายมีท่าทีลุกลี้ลุกลน บอกว่าจะมาเยี่ยมญาติ พยาบาลสังเกตเห็นมีดเหน็บอยู่ที่เอวจึงไม่อนุญาตให้เข้า แจ้งให้ รปภ.ทราบ แต่ระหว่างที่ รปภ.กำลังจะเข้าไปเชิญตัวออกมา คนร้ายรีบวิ่งลงบันไดตึกมาก่อนแล้ว รปภ.ได้ออกตามหา

ขณะเดียวกัน น.ส.เอได้เดินไปรับผ้าปูเตียงเพื่อมาเปลี่ยนที่เตียงคนไข้ จู่ๆ คนร้ายก็วิ่งมาใช้มีดข่มขู่บังคับกระชากตัว น.ส.เอ พาไปยังซอกตึก พยายามจะข่มขืน น.ส.เอต่อสู้ขัดขืน แต่ก็ถูกชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งจนเกือบหมดสติ คนร้ายได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นคนร้ายได้เดินออกมาจากซอกตึก รปภ.ที่ออกตามหามาเจอได้ต่อสู้กับคนร้ายแต่จับตัวไว้ไม่ได้ และคนร้ายได้กระโดดปีนรั้วด้านหลังโรงพยาบาลหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ น.ส.เอ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

ด้าน พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจได้รีบออกไปตรวจสอบและติดตามจับกุม พบว่าคนร้ายวิ่งไปตามถนนเส้นหลังโรงพยาบาลและวิ่งไปถึงซอยท่าค่าย มีรอยเท้าเดินลงแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ค้นหาอย่างละเอียดแต่ก็ยังไม่พบ เมื่อออกตรวจสอบที่เกิดเหตุได้พบหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ คือกางเกงขาสั้น กางเกงชั้นใน และกระเป๋าเป้ ซึ่งจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนเกิดเหตุชายต้องสงสัยตรงตามภาพของโรงพยาบาลได้ไปที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งเพื่อไปซื้อการบูรแล้วเอามาทาอวัยวะเพศของตัวเองพร้อมกับพูดว่า “เงี่ยน” อยู่หน้าร้าน จากนั้นไม่นานก็ได้รับแจ้งเหตุ

จากการสืบสวนของตำรวจ มั่นใจว่าคนร้ายคือ นายปุ้มปุ้ย เกษานุช อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 หมู่ 10 ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีประวัติทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ติดคุก 1 ปี เมื่อปี 2558 จากนั้นเมื่อ พ.ค. 2560 ได้ก่อเหตุข่มขืนหญิงคนหนึ่ง อยู่ระหว่างติดตามจับกุม และมาก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้ โดยคนร้ายมีลักษณะคล้ายคนมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งได้ออกหมายจับข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้กำชับให้ติดตามจับกุมและไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นคดีที่คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประสานหน่วยงานข้างเคียงติดตามจับกุม แต่เนื่องจากนายปุ้มปุ้ยไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เร่ร่อนไปเรื่อยๆ รวมถึงตรวจสอบว่ามีการลักลอบเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านด้วยหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น