ฉะเชิงเทรา - เอาอีกแล้ว เพจชื่อดังท้องถิ่นเมืองแปดริ้วตีข่าวจนมนุษย์ฟันเหล็กพากันขวัญผวา หลังอ้างเหล็กจัดฟันแฟชั่นหลุดลงคอสาว 14 ตายคาที่ ขณะญาติตำรวจกังขา เชื่อเป็นเหตุฆาตกรรมมากกว่า หลังพบร่องรอยน่าสงสัย ระบุต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มายืนยันความกระจ่างของเหตุที่เกิดขึ้น
วันนี้( 13 ก.ค) ร.ต.อ.เสถียรพงษ์ อ่อนสีทอง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีมีเพจข่าวท้องถิ่นชื่อดัง เรารักแปดริ้ว ทำการตีแผ่เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับเด็กหญิงสาววัย 14 ปี นอนเสียชีวิตอย่างปริศนาบนที่นอนภายในบ้านพักว่า “จัดฟันแฟชั่นโคตรอันตรายเหล็กหลุดลงคอขวางหลอดลมทำให้ตายได้” จนมีสื่อบางสำนักด่วนรีบนำไปเผยแพร่ต่อผ่านทางเว็บไซต์นั้นว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของเด็กหญิงรายดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด
แต่หลังจากทางแพทย์ รพ.บ้านโพธิ์ เดินทางเข้าไปร่วมชันสูตรพลิกศพแล้ว และได้ทำการล้วงเข้าไปภายในลำคอของเด็กสาว กลับไม่พบอะไรหลุดลงไปติดที่ลำคอ นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุและตามร่างกายของผู้ตายยังพบสิ่งผิดปกติที่น่าสงสัยอีกหลายประการ ทั้งร่องรอยกองเลือด ที่นอกจะพบตรงบริเวณบนที่นอนจุดที่พบศพของผู้ตายแล้ว ยังไปพบอีกจุดตรงที่บริเวณมุมห้องห่างจากจุดแรกประมาณ 2.5 เมตร ที่พื้นห้องมีรอยคราบเลือดอีกหลายจุด ผ้าปูที่นอนถูกถลกขึ้น มาวางไว้อยู่ใต้ศพ
นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยคล้ายกับถูกเส้นลวดขนาดเล็กรัดที่ลำคอจนขาดอากาศหายใจ และเป็นรอยเขียวช้ำขนาดเท่ากับเส้นลวดเล็กๆ รอบลำคอ ที่ข้างจมูก และบริเวณใต้ตาซ้ายพบรอยข่วนจนมีแผลเป็นทางยาว นอกจากนี้ ยังพบมีรอยเขียวช้ำที่บริเวณใต้ลิ้นปี่ และหัวไหล่ทั้งสองข้างอีก 2 จุด
ส่วนสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุยังพบความผิดปกติ ในขณะที่มารดามาพบศพของผู้ตาย พบว่า ผู้ตายนั้นนอนกลับหัวจากปกติที่เคยนอนหันศีรษะไปทางด้านทิศตะวันออก แต่ในขณะพบศพนั้นกลับพบว่าผู้ตายนั้นนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ตลอดจนยังพบว่า ประตูบ้านไม่ได้ล็อกกลอนตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช่า ก่อนที่ผู้เป็นมารดาจะเดินทางกลับเข้าบ้านมาพบกับศพของผู้เสียชีวิต
ขณะนี้ได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงบนคราบเลือด และดีเอ็นเอแฝงตามรอยขีดข่วนตามร่างกาย ตลอดจนเนื้อเยื่อบนเล็บมือของผู้ตาย และตรวจภายในเพื่อหาคราบอสุจิ ในการหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
ด้าน นางเจนจิรา แสงเกิด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ม.3 ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มารดาของผู้เสียชีวิต คือ ด.ญ.บงกช แสงเกิด อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน กล่าวว่า หลังจากปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียวจนเกือบตลอดทั้งคืนนั้น เมื่อกลับเข้ามาถึงบ้านในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ได้พบกับความผิดปกติเกิดขึ้นภายในบ้าน คือ บุตรสาวไม่ได้ล็อกใส่กลอนประตูบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วบุตรสาวจะทำการล็อกประตูบ้านไว้อยู่ตลอดเวลาในขณะที่อยู่บ้านเพียงลำพัง
ขณะเดียวกัน ยังพบความผิดปกติอีกประการหนึ่ง คือ บุตรสาวนั้นนอนคว่ำหน้ากลับหัว จากปกติที่บุตรสาวจะนอนหันศีรษะไปทางหน้าต่างที่ด้านทิศตะวันออกของตัวบ้าน แต่ในขณะที่เข้ามาพบศพ กลับพบว่าบุตรสาวนั้นนอนหันศีรษะมาทางด้านทิศตะวันตก จึงได้ร้องเรียกถามบุตรสาวว่า “ทำไม่ถึงนอนหันหัวมาทางนี้” แต่บุตรสาวไม่ตอบ จนเมื่อเข้ามาดูจึงพบว่า บุตรสาวนั้นเสียชีวิตไปแล้ว
ปกติบุตรสาวนั้นชอบใส่เหล็กจัดฟันแฟชั่น ที่ซื้อมาใส่เองเมื่อประมาณ 2 ปีเศษแล้ว ซึ่งตนก็ได้เคยเตือนอยู่เป็นประจำว่าไม่ควรใส่ แต่บุตรสาวชอบ และก็มักจะถอดเปลี่ยนใส่เข้าออก และดูแลอย่างดีอยู่เป็นประจำ จึงไม่น่าจะทำหลุดลงเข้าไปในลำคอได้ และเมื่อทางพี่ชายของตนมาทดลองล้วงคอของบุตรสาวพร้อมด้วยแพทย์ที่มาร่วมชันสูตรก็ไม่พบว่ามีอะไรหลุดเข้าไปติดอยู่ในลำคอ
ขณะนี้จึงยังต้องรอผลการชันสูตรของทางแพทย์สถาบันนิติเวช มายืนยันอีกครั้ง โดยทางญาติเชื่อว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่า เนื่องจากพบกองเลือดหลายจุด และพบร่องรอยเขียวช้ำอยู่ที่ใต้ไหปลาร้า และรอยเขียวที่ลำคอบนศพบุตรสาวด้วย
ขณะเดียวกัน ด.ญ.ฝน และ ด.ญ.รัตน์ เพื่อนร่วมชั้นเรียนกล่าวว่า เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของเพื่อนร่วมห้องรายนี้ เพื่อนในห้องก็ต่างพากันตกใจ และมีคนสอบถามกันมามาก เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังได้พูดคุยกันจนถึงช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ผ่านทางการแชตกลุ่ม ซึ่งปกติตนและผู้ตายจะสนิทกันมาก และมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ
โดยเป็นเพื่อนเล่นกันมาโดยตลอด ที่ผ่านมา พวกตนก็ยังเข้าไปเล่นอยู่ด้วยกันเป็นประจำภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุนี้ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าเพื่อนนั้นจะตายด้วยเหล็กจัดฟัน เพราะเชื่อว่าคงไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากหากเหล็กจัดฟันหลุดก็จะหลุดออกมาหมดทั้งแผง เพราะเป็นเหล็กชิ้นเดียว ส่วนเกล็ดสะท้อนแสงที่ติดประดับมาบนเหล็กจัดฟันนั้นก็เป็นเพียงแผ่นเล็กๆ กลมๆ เท่านั้น ถ้าหากหลุดเข้าไปในลำคอก็จะตกลงไปอยู่ภายในท้องได้เลย เพราะชิ้นมันเล็กมากจนไม่สามารถที่จะไปติดคาอยู่ในลำคอได้
สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น ผู้ตายไม่เคยเล่าเรื่องความผิดปกติอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตให้ฟังมาก่อน แต่ได้มีเพื่อนชายต่างโรงเรียนในวัยเดียวกันได้เข้ามาแอบชอบพอกับผู้ตายอยู่บ้างเท่านั้น แต่ยังไม่ได้เข้ามาคบหากันเป็นแฟนแต่อย่างใด
