หนองคาย - ตำรวจหนองคายตั้งด่านตรวจเจอรถกระบะขนผ้าไหมจีนมาเต็มคันรถ ขอดูเอกสารเสียภาษีไม่มีแสดง ก่อนจะมีคนลาวมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ อ้างนำเข้าถูกต้องจ้างรถขนส่งรับจากหนองคายไปส่งลูกค้าที่แม่สาย แต่ศุลกากรยืนยันไม่ได้เสียภาษีนำเข้า จับทั้งคนไทย-คนลาว ยึดผ้าไหมของกลางมูลค่ากว่า 4 แสนบาท
เมื่อเวลา 23.00 น. คืนที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ที่ด่านตรวจหนองสองห้อง ริมถนนมิตรภาพ อ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รอง ผกก.(ป.), พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย หัวหน้าด่านตรวจหนองสองห้อง, นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ศุลกากร, ตชด. ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายยุทธนา กลิ่นหอม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 6 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี, นายสมคิด ฐานะดี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 1 ต.โนนหวาย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และนายคำสะหวัน พิลาวง อายุ 46 ปี ชาวบ้านนาแค เมืองไซธานี นครหลวงเวียงจันทน์
พร้อมยึดของกลาง เป็นผ้าไหมจีน 19 กระสอบ น้ำหนัก 760 กิโลกรัม ประมาณ 2,600 ผืน, ผ้าสไบ 1 กระสอบ น้ำหนัก 40 กก. ประมาณ 290 ผืน บรรทุกมาในรถกระบะขนส่งมีฝาปิดทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ตอนเดียว ทะเบียน บต 5417 หนองบัวลำภู
พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. คืนเดียวกัน พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย ได้นำเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหนองสองห้องตั้งด่านตรวจบนถนนมิตรภาพขาออกจังหวัดหนองคายตามปกติ ก็พบรถกระบะขนส่งคันดังกล่าวขับเข้ามาจึงได้เรียกตรวจ พบนายยุทธนาเป็นคนขับ โดยมีนายสมคิดนั่งมาด้วย สอบถามทราบว่าเป็นรถขนส่งผ้าไหมที่ลูกค้าจ้างให้ไปส่งที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
แต่ไม่มีเอกสารกำกับการเสียภาษีมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู จึงได้ประสานศุลกากรหนองคายมาตรวจสอบ
ระหว่างนั้น นายคำสะหวัน พิลาวง คนลาวได้ขับรถมาที่ด่านตรวจหนองสองห้อง แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของผ้าไหมและผ้าสไบทั้งหมด โดยอ้างว่านำเข้ามาถูกต้อง แต่ไม่ทราบว่าจะต้องจ่ายภาษีนำเข้าทางศุลกากรก่อน
ขณะที่นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายคำสะหวันได้มาเช่าห้องพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใกล้ตลาดสดแจ้งสว่าง ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย แล้วสั่งซื้อผ้าไหมจีนจากคนจีนที่นครหลวงเวียงจันทน์ ขนใส่กระสอบมาทางรถไฟระหว่างประเทศไทย-ลาว ในราคาผืนละ 25 บาท
โดยมีลูกค้าเป็นแม่ค้าที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย สั่งซื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้นายคำสะหวันจะนำผ้าไหมและสไบครั้งละถุงเล็กๆ ไปฝากขึ้นรถทัวร์โดยสารที่ จ.อุดรธานี
แต่ในครั้งนี้ต้องส่งของจำนวนมาก จึงได้ว่าจ้างบริษัทขนส่งให้มารับของไปส่งให้ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วเป็นสินค้าที่ลักลอบนำเข้าประเทศ โดยไม่มีการชำระภาษีนำเข้าศุลกากรแต่อย่างใด และทั้งหมดมีมูลค่ารวมภาษีประมาณ 4 แสนบาท
เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาทั้ง 3 คน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ร่วมกันลักลอบนำเข้าสินค้า (ผ้าซิ่นไหม ผ้าสไบเฉียง) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร อัตราโทษปรับ 4 เท่าของราคาสินค้ารวมค่าอากร หรือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ (พ.ร.บ.ศุลกากร จะใช้โทษปรับนำหน้าโทษจำคุก)
หลังจากนั้นจะส่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และจะนำของกลางส่งให้ศุลกากรหนองคายเก็บรักษาตามกฎหมาย