xs
xsm
sm
md
lg

บุกพิสูจน์ถึงฟาร์ม..ตามส่องสุนัขไทยแท้พันธุ์ “บางแก้ว” ไม่ใช่ “บางขวด”(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - ตามพิสูจน์ฟาร์ม-แหล่งเพาะพันธุ์สุนัขบางแก้ว นายกสมาคมฯ แนะวิธีดู “บางแก้ว” หรือ “บางขวด” ยืนยันบางแก้วแท้แม้ดุแต่ไม่ถึงขั้นทำร้ายเจ้าของ



หลัง “สุนัขบางแก้ว” ตกเป็นข่าวเกรียวกราวกัดหนุ่มบุรีรัมย์ วัย 35 ปี เจ้าของที่เลี้ยงมานาน 5 ปี จนนิ้วขาด-ลูกอัณฑะกระเด็น แถมเป็นแผลเหวอะหวะทั้งตัวต้องเย็บถึง 35 เข็ม ทั้งยังเคยกัดลูกน้อง-ชาวบ้านอีกหลายรายมาก่อนหน้านี้ด้วย

ล่าสุด นายสามารถ สิงห์โตทอง นายกสมาคมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแห่งประเทศไทย เปิดฟาร์มสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ยืนยันว่า สุนัขที่ดุกัดเจ้าของที่เป็นข่าวนั้นไม่ใช่สายพันธุ์บางแก้วแน่นอน เรียกว่า สายพันทาง คือสุนัขไทยผสมหลายสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ซึ่งสุนัขกัดเจ้าของย่อมมีสาเหตุแน่นอน สุนัขจึงมีพฤติกรรมเป็นเช่นนั้น

นายสามารถบอกว่า หลักการสังเกตง่ายๆ ว่าเป็นสุนัขไทย “บางแก้ว” แท้ๆ ไม่ใช่ “บางขวด” นั้นคือ หูทั้งสองของบางแก้วต้องตั้ง ปากเรียว ตาไม่กลม ลักษณะรีๆ สีน้ำตาลเข้มใกล้สีดำเท่านั้น หากเป็นสีอื่นไม่ใช่บางแก้วแน่นอน ส่วนปลายจมูกจะเป็นสีดำ หางเป็นพวง มีขนขาหน้าคล้ายขนขาแข้งสิงห์ มีขนแผงรอบคอคล้ายสิงโต ส่วนลำตัวนั้นมีทั้งสีขาว-ดำ, ขาว-น้ำตาล และขาว-เทา ด้วยคุณสมบัติลักษณะเด่นคือ ฉลาด กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ปราดเปรียว แข็งแรง ค่อนข้างดุ แต่รักเจ้าของ

หากสุนัขของสมาชิกของสมาคมฯ คอกใดมีจุดด้อย อาทิ หูตก ฯลฯ ทางสมาคมฯ จะห้ามไม่ให้ผสมพันธุ์ต่ออีกเลยเนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าวจะเสียไปเรื่อยๆ ซึ่งสมาคมฯ ต้องการพัฒนาสุนัขบางแก้วให้มาตรฐานสากล โดยขณะนี้สมาคมสุนัขโลก (FCI) ได้รับรองสุนัขบางแก้วเป็นการชั่วคราวแล้ว

นายสามารถระบุด้วยว่า การเพาะเลี้ยงสุนัขบางแก้วเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสมาชิกสมาคมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแห่งประเทศไทยมีถึง 200 คอก แต่ถิ่นกำเนิดมาจากจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะฟาร์มของตน “สิงห์โตฟาร์ม” นั้นมีแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์ร่วม 70 ตัว แต่บางตัวที่เลี้ยงไว้ก็แก่ อายุมากใกล้ปลดระวาง

นายกสมาคมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแห่งประเทศไทยยืนยันอีกว่า ไม่อนุญาตให้สุนัขบางแก้วผสมข้ามสายพันธุ์ เพราะมีคนเคยเล่าว่านำสุนัขบางแก้วกับสุนัขไซบีเรียนไปผสมกัน ลูกออกมาไม่ได้เรื่อง คือไม่ได้ลักษณะเด่นๆ ออกมา กลายเป็นสุนัขที่ยึดหลักอะไรไม่ได้เลย

สำหรับคนที่คิดจะเลี้ยงสุนัขบางแก้ว สมาคมฯ ได้แจ้งไปยังแต่ละฟาร์ม (คอก) ว่าจะต้องเลี้ยงให้ถูกต้อง จะต้องถามก่อนว่าผู้เลี้ยงหน้าใหม่มีอาณาบริเวณหรือไม่ ซึ่งหากเป็นทาวน์เฮาส์คงไม่ได้แน่นอน เพราะสุนัขบางแก้วจะต้องมีพื้นที่วิ่งเล่น

โอกาสนี้ สมาคมฯ ยังได้นำสื่อมวลชนเข้าดูศูนย์เรียนรู้สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว เริ่มจากดูลักษณะกรงที่เลี้ยง และสถานที่วิ่งเล่น การให้อาหาร ซึ่งคอกสิงโตฟาร์มมีสุนัขไทยบางแก้วมากถึง 70 ตัว (แบ่งเป็น 2 แห่ง ทั้งศูนย์เรียนรู้ และสถานที่โชว์ตัว) นอกจากนี้ ยังพบว่ากรงเลี้ยงดูสุนัขไทยบางแก้วได้รับการติดมุ้งลวดกันยุงอย่างดี ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์หรือตัวเมียจะเป็นสัด เจ้าของฟาร์มกำลังดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวผู้จะได้กลิ่นและมีความต้องการผสมพันธุ์ ซึ่งคนเลี้ยงจะต้องดูแลใกล้ชิด พร้อมกับคัดสรรสาย (พ่อ) พันธุ์ไม่ให้ลูกออกมาดุร้าย ซึ่งสมาชิกสมาคมฯ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้สุนัขไทยบางแก้วจะดุ ก็ไม่ถึงขั้นกัดเจ้าของแน่นอน

และขณะนี้บรรดาสมาชิกสมาคมฯ ต่างชื่นชม “เจ้าภูหิน” สุนัขเพศผู้ อายุ 4 ปีเศษ เกิดที่คอก “สิงห์โตทองฟาร์ม” ของนายกสมาคมฯ ที่คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดยูโรด็อกโชว์ ที่ประเทศเบลเยียมเมื่อปีที่ผ่านมา เรียกว่าทำชื่อเสียงความเป็นสุนัขไทยแท้ถิ่นกำเนิดพิษณุโลกจนโด่งดัง
กำลังโหลดความคิดเห็น