ลำปาง - เกิดเหตุไฟลามไหม้บ้านไม้สักหลังงามกลางเมืองรถม้าวอด 2 หลังรวดกลางสายฝน เดชะบุญชาวบ้านตะโกน “ไฟไหม้ ไฟไหม้..” ปลุก-ช่วยกันพาเจ้าของบ้านต้นเพลิงหนีตายได้หวุดหวิด แต่คุมเพลิงไม่อยู่ สุดท้ายบ้านเหลือแต่กองขี้เถ้ากับเสาดำเป็นตอตะโก
วันนี้ (11 ก.ค.) ร.ต.อ.สุพจน์ ลาภมาก รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเสด็จ จ.ลำปาง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านจำนวน 2 หลัง ภายในหมู่บ้านทรายทอง หมู่ 3 ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง เช้ามืดที่ผ่านมา จึงประสานรถดับเพลิง อบต.บ้านเสด็จ พร้อมเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายอินจันทร์ ฟูใจ อายุ 68 ปี เลขที่ 104 และบ้านของ จ.ส.อ.อนันต์ ธรรมสิทธิ์ อายุ 54 ปี เลขที่ 254 ซึ่งปลูกสร้างอยู่ติดกัน กำลังถูกเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และไม่สามารถสกัดได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยงานใกล้เคียงอีก 5 คันมาช่วยกันดับไฟ เนื่องจากบ้านที่ถูกไฟไหม้เป็นบ้านไม้สักสองชั้นทั้ง 2 หลัง ทำให้ไฟโหมไหม้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าขณะเกิดเหตุจะมีฝนตกโปรยปรายตลอดเวลาก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงได้ แต่บ้านก็วอดไปทั้งหมด
จ.ส.อ.อนันต์ ธรรมสิทธิ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 254 เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับกับครอบครัวก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกว่าไฟไหม้ ไฟไหม้..จึงได้รีบลุกขึ้นดู ก็พบว่าที่บ้านของนายอินจันทร์ ซึ่งอยู่ติดกับหลังบ้านตนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง และกำลังลุกลามมาที่บ้านตน จึงได้รีบเก็บเอกสารสำคัญ และทรัพย์สินต่างๆ ที่พอจะขนได้เอาออกจากบ้าน ซึ่งไม่นานเปลวไฟก็ลุกลามมาไหม้บ้านตนเองอย่างรวดเร็ว หลังจากเพลิงสงบแล้วก็พบว่าบ้านได้ถูกไฟไหม้วอดไปทั้งหลังดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น ก่อนจะมีไฟลุกไหม้ที่บ้านของนายอินจันทร์ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงก็ได้ช่วยกันพานายอินจันทร์ และภรรยาออกจากตัวบ้าน ก่อนจะโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ และช่วยกันดับไฟ แต่ก็เอาไม่อยู่ จนไฟลุกลามไปบ้านใกล้เคียงดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ก็ต้องประสานหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ส่วนความเสียหายน่าจะเกินกว่า 1 ล้านบาท
