ทช.ประจวบฯ รวบลูกเรือประมงชำแหละเนื้อโลมาอิรวดี ทำเมนูเปิบพิสดาร

ประจวบคีรีขันธ์ - ทช.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมศูนย์ปีโป้ นำกำลังจับกุมลูกเรือประมงชำแหละโลมาติดอวนทำเมนูเปิบพิสดาร ชี้ผิด พ.ร.ก.การประมง และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าหรือมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (10 ก.ค.) นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล (สบ.ทช.3) สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ น.ต.จักรกฤษณ์ หงษา ร.น. ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (ปีโป้) เรือประมงประจวบคีรีขันธ์

ได้รับแจ้งจากกลุ่มอนุรักษ์อ่าวน้อย ว่า พบซากโลมาถูกหันเป็นชิ้น โดยส่วนหัว และเนื้อบางส่วนถูกลูกเรือประมงนำไปปรุงเป็นอาหาร เหตุเกิดบริเวณสะพานปลาเจริญลาภ ม.2 บ้านอ่าวน้อย ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงเข้าควบคุมตัว นายสิงห์ เขียวพยับ อายุ 62 ปี ชาว จ.สมุทรสงคราม ไต้ก๋งเรือประมงจงเจริญชัย 10 เรืออวนลากคู่ ขนาด 70 ตันกรอส พร้อมซากโลมาไปยัง สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสอบสวน และดำเนินคดี ก่อนรายงานให้ นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รับทราบเพื่อหามาตรการป้องกัน

นายสิงห์ อ้างว่า ตนเองเพิ่งทราบว่าลูกน้องซึ่งเป็นลูกเรือชาวพม่า นำซากโลมาที่ตายจากการติดอวนลวกขึ้นมาบนเรือเพื่อชำแหละเนื้อทำอาหาร โดยไม่สามารถยับยั้งได้ทัน แต่ยืนยันว่าทุกครั้งที่มีโลมาติดอวนก็จะให้ลูกเรือแกะออกปล่อยสู่ทะเล ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงทำให้ตนเองถูกดำเนินคดี และเสียค่าปรับเป็นเงินหลายแสนบาท พร้อมยอมรับว่า ดูแลลูกน้องไม่ทั่วถึง

และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า โลมาที่ถูกนำมาชำแหละเป็นโลมาอิรวดี ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 66 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16, 19, 20, 23 ห้ามมิให้ผู้ใดล่า หรือมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์