ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - โคตรหวาดเสียว! ต้นไม้สูงใหญ่ขนาดสองคนโอบบนวัดพระธาตุดอยสุเทพล้มทับรถยนต์ 3 คันพังยับ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คนรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ เจ้าตัวเผยขับรถมาส่งญาติไหว้พระธาตุ นำรถเข้าจอดยังไม่ทันได้ก้าวเท้าลงแต่เกิดเหตุขึ้นก่อน เชื่อบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งพระธาตุดอยสุเทพ และครูบาศรีวิชัยช่วยคุ้มครอง
เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ (10 ก.ค. 60) เกิดเหตุต้นไม้ใหญ่ขนาดเส้นรอบวงประมาณสองคนโอบล้มบริเวณลานจอดรถยนต์ของวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ
เบื้องต้นพบรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกต้นไม้ล้มใส่ ได้แก่ รถยนต์เก๋งโตโยต้า ทะเบียน กพ 3306 เชียงใหม่, รถยนต์แวนโตโยต้า ทะเบียน นค 4281 เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน 4115 เชียงใหม่ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายสมพงษ์ พรมแก้ว บ้านเลขที่ 47 หมู่ 3 ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของรถยนต์เก๋งโตโยต้าที่นั่งอยู่ในรถระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งโชคดีได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนรถยนต์อีก 2 คันเป็นของชาวบ้านที่นำมาจอดไว้ แต่ไม่มีคนอยู่ในรถ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาล และใช้อุปกรณ์ตัดเลื่อยต้นไม้ออกเพื่อเคลื่อนย้ายรถ
ทั้งนี้ นายสมพงษ์เล่าว่า ขับรถยนต์นำญาติมาส่งเพื่อไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ เมื่อส่งลงแล้วได้ขับรถไปจอดที่ลาน ซึ่งยังไม่ทันจะได้ลงจากรถปรากฏว่าต้นไม้ได้หักล้มลงมาใส่รถได้รับความเสียหายทั้งคัน ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่ยังสามารถมุดคลานออกมาได้ ทั้งที่เมื่อดูจากสภาพรถที่ได้รับความเสียหายแล้วคนที่พบเห็นน่าจะคิดว่าต้องเสียชีวิตแน่นอน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเป็นบารมีขององค์พระธาตุดอยสุเทพและครูบาศรีวิชัยที่ช่วยคุ้มครองให้รอดปลอดภัย โดยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่นายขจร ประเสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า หลังจากทราบได้เร่งประสานกู้ภัยเข้าทำการตรวจสอบเพราะคาดว่าจะมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ช่วงที่เข้าไปช่วยเหลือไม่คาดคิดว่านายสมพงษ์ได้มุดออกจากซากรถที่พังเสียหายยับออกมาได้ ซึ่งเร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสุเทพนำเครื่องจักรมาตัดขนย้ายต้นไม้ออกไป ซึ่งต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ล้มนั้นเป็นต้นทะโล้ หรือสารภีป่า สาเหตุคาดว่าเนื่องมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ทำให้ดินทรุด ประกอบกับต้นไม้มีขนาดใหญ่ทำให้รากที่ยึดต้นทนน้ำหนักไม่ไหวและล้มลงมาในที่สุด
