ฉะเชิงเทรา - พ่วง 22 ล้อหลุดทางโค้งปราบเซียนถนนวงแหวนเบี่ยงขึ้นมอเตอร์เวย์จากบางนา-ตราด ตกทางด่วนสูง 5 เมตร ตัวรถพังยับเยินตาย 1 เจ็บ 1 ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนเผยเหตุเกิดขึ้นแบบซ้ำซากในจุดเดียวกันถี่ยิบ เชื่อโค้งทางขึ้นกับความลาดเอียงไม่รับต่อน้ำหนักของตัวรถ ขณะเด็กรถหนุ่มชาวบุรีรัมย์เพิ่งมาสมัครเข้าทำงานเป็นวันแรกดวงชะตาถึงฆาต สังเวยวงแหวนมรณะดับคาที่
วันนี้ (9 ก.ค.) ร.ต.อ.พศวัฒน์ พัตพัน รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าทำการตรวจสอบอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 22 ล้อ พุ่งหลุดออกจากทางโค้ง บนถนนวงแหวนแยกจากถนนสายบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาเข้า กทม. มุ่งหน้าขึ้นสู่ถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ กม.39 ก่อนตกลงไปยังที่พื้นดินด้านล่าง จากความสูงประมาณ 5 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย
ที่เกิดเหตุพื้นที่ ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง พบรถยนต์บรรทุกพ่วงยี่ห้อฮีโน่ หัวสีขาว ทะเบียนหัวลาก 62-5597 กทม. ทะเบียนหางพ่วง 62-6016 กทม. ตกลงไปอยู่ที่ด้านล่าง สภาพส่วนหัวลากพังยับเยินจนหัวเก๋ง เครื่องยนต์ และถังก๊าซ CNG หรือเอ็นจีวี หลุดออกมาจากตัวถังรถ ขณะที่ตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งภายในบรรทุกปุ๋ยมาจนเต็มคันนั้นอยู่ในสภาพล้มนอนตะแคง ผนังตู้ฉีกขาดจนมองเห็นสินค้าที่บรรจุอยู่ด้านใน และยังมีรอยยุบโดยรอบคัน
ทราบชื่อคนขับ คือ นายธงชัย สมหวัง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.16 ต.หนองปลิง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ศีรษะแตกบริเวณหน้าผาก และมีรอยฟกช้ำแผลถลอกตามร่างกาย ตกลงไปอยู่ในป่าหญ้าพร้อมกับตัวรถ ขณะเดียวกัน ที่พื้นถนนบริเวณขอบไหล่ทางใกล้กับราวสะพานของถนนวงแหวนยกระดับ มีร่างของผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน ทราบชื่อต่อมา คือ นายพุธสิทธิ์ ศรีสุข อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.17 ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ อยู่ในสภาพคอหัก กรามแตก
ซึ่งคาดว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายถูกแรงเหวี่ยงของตัวรถเหวี่ยงจนร่างกระเด็นออกมาตกอยู่ที่ด้านนอกตัวรถ ในขณะที่ตัวรถกำลังพุ่งชนเข้ากับราวสะพานจนตัวรถพลิกตะแคงทับร่าง ก่อนกลิ้งตกลงไปที่พื้นดินด้านล่าง เนื่องจากที่ขอบราวสะพานนั้นมีร่องรอยของการชนจนพังได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวถึงกว่า 25 เมตร
จากการสอบถาม นายศรัญญู สระมูล อายุ 25 ปี พนักงานขับรถบรรทุกพ่วงของ บริษัท ซัมมิทโลจิสติกส์ จำกัด เพื่อนร่วมบริษัทเดียวกันกับรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ กล่าวว่า นายธงชัย เพิ่งเข้ามาทำงานเป็นคนขับรถในบริษัทได้เพียงประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ส่วน นายพุธสิทธิ์ นั้น เพิ่งเข้ามาสมัครเข้าทำงานเมื่อช่วงเช้าวานนี้ และเพิ่งมากับรถคันนี้เป็นเที่ยวแรก ก่อนที่จะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
สำหรับสินค้าที่บรรทุกอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์นั้นเป็นปุ๋ย โดยได้ไปรับสินค้ามาจากท่าเทียบเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เพื่อจะนำไปส่งที่คลังสินค้า ICD เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ซึ่งทางโค้งบริเวณนี้มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เพราะทางโค้งไม่เอียงรับต่อน้ำหนักของตัวรถ เวลารถบรรทุกหนักๆ ขับขึ้นมาน้ำหนักบรรทุกจะถูกเหวี่ยงออกไปทางด้านข้างซ้ายของตัวรถ จนทำให้ตัวรถเอียงพลิกตะแคงคว่ำ หรือหลุดโค้งออกไป เนื่องจากความลาดเอียงของถนนไม่รับต่อน้ำหนักรถ หากขับขึ้นมาด้วยความเร็ว หรือแรงเกิน
แต่ถ้าหากขับขึ้นมาอย่างช้าๆ ก็จะทำให้รถขับขึ้นไม่ไหว หรือขึ้นบนวงแหวนได้ยากลำบาก หากรถมีน้ำหนัก จึงต้องอาศัยแรงส่งจากความเร็วเพื่อให้ตัวรถขึ้นมาได้ง่าย แต่ถ้าหากคนขับไม่ชำนาญเส้นทางก็จะมีโอกาสที่จะหลุดโค้งลงไปได้ง่าย จึงควรจะค่อยๆ ขับขึ้นมาจะดีกว่า และปลอดภัยกว่า นายศรัญญู กล่าว
ด้าน นายกำพล พวงแก้ว อายุ 32 ปี จนท.หน่วยกู้ภัยทางด่วนมอเตอร์เวย์ แขวงทางหลวง กรมทางหลวง กล่าวว่า จุดเกิดเหตุบริเวณวงแหวนต่างระดับเข้ามอเตอร์เวย์ กม.39 แห่งนี้ มักจะเกิดอุบัติเหตุลักษณะแบบนี้ขึ้นกับรถบรรทุกพ่วงอยู่บ่อยครั้ง เท่าที่ทำงานอยู่ที่จุดนี้มาประมาณ 3 ปี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถบรรทุกพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ลักษณะนี้จำนวน 4 ครั้งแล้ว เฉพาะในวันที่ตนเองมาเข้าเวรเท่านั้น และน่าจะมีอุบัติเหตุในทำนองเดียวกันเกิดขึ้นที่บริเวณจุดนี้ในวันที่ไม่ได้มาเข้าเวรอีกหลายครั้ง
เนื่องจากบริเวณทางขึ้น กม.39 นี้ มีความลาดเอียงที่รถบรรทุกหนักขับขึ้นได้ยากลำบาก เพราะต้องใช้แรงส่งมากในรถบรรทุกหนัก หากขับด้วยความเร็วเกิน 60 กม.ต่อ ชม. ตัวรถก็จะหลุดออกจากทางโค้ง แต่ถ้าหากขับช้ามากรถก็จะขึ้นทางโค้งเข้าสู่วงแหวนไม่ไหว จึงทำให้รถบรรทุกพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มาประสบอุบัติเหตุตรงบริเวณจุดเดียวกันนี้อยู่เป็นประจำหลายครั้งแล้ว