ศรีสะเกษ- ระทึก! ตำรวจ จนท.ฝ่ายปกครองศรีสะเกษ ไล่ตะครุบพระนั่งเสพยาบ้าอยู่บนกุฏิโดดวิ่งหนีสุดชีวิตจีวรปลิวว่อนแต่ไปไม่รอดโดนรวบอยู่หน้าวัด จำนนต่อหลักฐาน รับสารภาพเสพ และค้ายาบ้า ก่อนนำพระขยายผลจับกุมเครือข่ายในพื้นที่ พร้อมของกลางยาบ้าอีก 347 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก
วันนี้ (7 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านแวง หมู่ที่ 1 ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายปรีชา ส่งเสริม หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) จากกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 บุกเข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบ และจับกุม พระอาทิตย์ จำปาเรือง อายุ 27 ปี พระลูกวัดบ้านแวง หมู่ที่ 1 ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
หลังจากมีประชาชนร้องเรียนโทรศัพท์สายตรงไปยัง นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ว่า พระอาทิตย์ มีพฤติการณ์ลักลอบเสพ และขายยาบ้าให้แก่วัยรุ่นในเขตพื้นที่ อ.กันทรารมย์ มานานแล้ว
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปที่วัดดังกล่าว พบ พระอาทิตย์ กำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่บนกุฏิ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อพระอาทิตย์ เห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการตกใจ เดินลงมาจากกุฏิ แล้ววิ่งหนีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่ติดตามจับกุมไปอย่างกระชั้นชิด และสามารถจับกุมตัว พระอาทิตย์ ไว้ได้ที่บริเวณหน้าวัดที่เกิดเหตุ พร้อมยาบ้าซึ่ง พระอาทิตย์ กำไว้ในมือ และโยนทิ้งขณะวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ จำนวน 2 เม็ดครึ่ง ซึ่งกว่าจะจับกุมตัว พระอาทิตย์ ได้ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ถึง 5 นาย และต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ เนื่องจาก พระอาทิตย์ แสดงอาการขัดขืนจนเกิดการชุลมุนขณะจับกุม และยอมจำนนต่อหลักฐาน ยาบ้า จำนวน 2 เม็ดครึ่ง ที่โยนทิ้ง
พระอาทิตย์ ได้ให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจากเพื่อน จำนวน 20 เม็ด เสพไปแล้ว 17 เม็ด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาจับกุม และจากการตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการขยายผลการจับกุม โดยให้ พระอาทิตย์ โทรศัพท์ติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจาก นายทินกร หรือไผ่ ไชยภักดี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ที่ 16 ต.ผักแพว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า นายทินกร เกิดไหวตัวทันทราบว่า พระอาทิตย์ ถูกจับกุมแล้ว พยายามพูดบ่ายเบี่ยงทางโทรศัพท์ว่าไม่มียาบ้าขายให้แก่ พระอาทิตย์ แล้ว
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตัดสินใจเดินทางไปที่บ้านของ นายทินกร เมื่อไปถึงที่บริเวณหน้าบ้านของ นายทินกร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบ นายทินกร ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านแม่ของนายทินกร ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ นายทินกร ได้ล้วงเอายาบ้าซึ่งใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีฟ้า ที่กระเป๋ากางเกงโยนทิ้งเข้าไปในบ้านแม่ของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัว นายทินกร และนำตัวไปตรวจสอบยาบ้าที่ นายทินกร โยนทิ้งไป พบเป็นยาบ้า จำนวน 147 เม็ด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการตรวจค้นที่บ้านพักของนายทินกร พบยาบ้าเพิ่มอีก จำนวน 1 ถุง จำนวน 200 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนไว้ที่ขาเก้าอี้ไม้ไผ่ และพบอาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก
นายทินกร รับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมด จำนวน 347 เม็ด และอาวุธปืนเป็นของตนเอง ซึ่งได้ซุกซ่อนไว้จริง จากการตรวจปัสสาวะของ นายทินกร พบว่า มีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาเสพ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ส่วน พระอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวไปทำการสึก และแจ้งข้อกล่าวหาว่า เสพ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอบโดยผิดกฎหมาย
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป