ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่เปิดเดินรถเมล์เพิ่มสายใหม่ B3 เส้นทาง “อาเขต-ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่” ด้วยรถบัสปรับอากาศขนาด 23 ที่นั่ง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด-GPS ทุกคัน หวังอำนวยความสะดวกเพิ่มให้ประชาชนในการเดินทาง หลัง 2 ปีที่ผ่านมาเปิดเดินรถเมล์สาย B1 และ B2 ได้ผลตอบรับดีลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลงเกือบ 5 หมื่นคัน
วันนี้ (7 ก.ค. 60) ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 3 นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 33 และตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกันเปิดเดินรถโดยสารสาธารณะสายใหม่ B3 เส้นทางอาเขต-ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เที่ยวปฐมฤกษ์
ซึ่งเป็นการเดินรถโดยสารสาธารณะเส้นทางที่ 3 หลังจากที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ให้บริการสาย B1 และ B2 ช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้บริการกว่า 134,000 คน และสามารถลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ได้อย่างน้อย 44,670 คัน
สำหรับรถโดยสารสาธารณะสาย B3 เส้นทางอาเขต-ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดให้บริการนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทาง อัตราค่าโดยสาร ประชาชนทั่วไป 15 บาท ส่วนนักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบและพระสงฆ์ 10 บาท เริ่มต้นเส้นทางจากอาเขตหรือสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 3 ไปตามถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ผ่านโรงพยาบาลเทพปัญญา ข้ามสะพานแม่น้ำปิง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนผ่านตลาดคำเที่ยง ไปทางสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เข้าถนนโชตนา ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ แยกข่วงสิงห์ เลี้ยวซ้ายผ่านกองกำลังผาเมือง ไปศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา และศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ แล้วย้อนกลับเส้นทางเดิมถึงแยกข่วงสิงห์ เลี้ยวซ้ายผ่านโรงพยาบาลลานนา ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล และเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 3
ทั้งนี้ รถที่มีการนำมาให้บริการในเส้นทางนี้นั้นเป็นรถโดยสารปรับอากาศขนาด 23 ที่นั่ง เบื้องต้นจำนวน 6 คัน โดยทุกคันมีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และระบบGPS เพื่อควบคุมความเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำแอปพลิเคชัน CMTRANSIT เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการด้วย โดยจะสามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินรถ และเวลาที่รถจะถึงป้าย ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถคำนวณและวางแผนการเดินทางได้เป็นอย่างดี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งการที่เทศบาลนครเชียงใหม่มีการเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะด้วยการนำรถโดยสารปรับอากาศขนาด 23 ที่นั่ง ก่อนหน้านี้ 2 สาย คือ สาย B1 เส้นทางอาเขต-สวนสัตว์ และ B2 เส้นทางอาเขต-สนามบิน รวมทั้งสายใหม่ล่าสุดนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งในการแก้ไขและบรรเทาปัญหา ตลอดจนช่วยรองรับความต้องการใช้บริการที่มีมากขึ้นได้เป็นอย่างดีและเชื่อมต่อการเดินทางได้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเชียงใหม่ให้ดีขึ้นด้วย
