xs
xsm
sm
md
lg

ลูก “ครูต้อย” ยันไม่มีซูเอี๋ย ผอ.ร.ร.ดังลำปาง ศิษย์เก่าโพสต์อาลัยบรรยากาศโรงเรียนเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสุรณี กัลยารัตนกุล หรือครูต้อย อายุ 65ปี ครูเกษียณ และอดีตเลขาส่วนตัวของ ผอ.โรงเรียนดังในตัวเมืองลำปาง
ลำปาง - ลูกสาว “ครูต้อย” โต้ที่ปรึกษา ศธ. ยันไม่มีซูเอี๋ย บอกแม่หอบหลักฐานให้ทั้งกรรมการสืบฯ สพป.-สตง.ไม่มีกั๊ก ขณะที่ศิษย์เก่าแห่โพสต์อาลัยบรรยากาศโรงเรียนเดิม-ครูผู้สอน

หลังจาก พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกมาให้ข่าวสื่อมวลชนส่วนกลางผ่านหนังสือพิมพ์หัวสีฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง ผอ.โรงเรียนอนุบาลชื่อดังลำปาง กรณีมีการร้องว่าใช้เงินของโรงเรียนโดยไม่ผ่านระบบตลอด 4 ปี กว่า 42 ล้านบาท ว่า

“ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ.รับทราบแล้ว ซึ่งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงพยายามประสานให้ผู้ร้องนำหลักฐานเพิ่มเติมมาให้ แต่เท่าที่ดูผู้ร้องยังมีทีท่าอิดออด ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร จึงไม่มั่นใจว่าผู้ร้องกับผู้ถูกร้องเริ่มมีการซูเอี๋ยยอมความกันแล้วหรือไม่”

ล่าสุดบุตรสาว (ขอสงวนชื่อ) ของนางสุรณี กัลยารัตนกุล หรือ ครูต้อย ครูเกษียณ-อดีตเลขานุการส่วนตัวของ ผอ.โรงเรียนดังในตัวเมืองลำปาง ที่ออกมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมและสื่อมวลชน เปิดเผยว่า วันนี้แม่ไปทำบุญฟังเทศน์ฟังธรรมที่วัดทั้งวันเพื่อให้จิตใจสบายขึ้น

ส่วนในเรื่องที่ผู้ใหญ่ส่วนกลางออกมาให้ข่าวในลักษณะนั้น ตนไม่เข้าใจว่าได้รับฟังข้อมูลมาจากไหน เพราะหลังจากที่แม่ พร้อมผู้ร้องทั้ง 10 คนเข้าไปให้ถ้อยคำ และนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มอบให้กรรมการทั้ง 3 คนที่ สพป.ลำปาง เขต 1 เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาหมดแล้ว ซึ่งวันนั้นมีการใช้เวลาซักถามกันนานกว่าครึ่งวัน ตั้งแต่ 13.00-19.00 น.

ลูกสาวครูต้อยบอกว่า กรรมการได้ซักถามแม่เพิ่มเติมไม่มากนัก และได้เอกสารทางการเงิน คือ สำเนาใบเสร็จรับเงินเพิ่มเท่านั้น เมื่อให้ถ้อยคำเสร็จทางกรรมการก็ไม่ได้ขอเอกสารใดๆ เพิ่มเติมอีกเลย และหลังจากนั้นกรรมการฯ ก็ไปสอบปากคำบุคลากรภายในโรงเรียน

“ยืนยันว่าไม่มีใครประสานขอเอกสาร หรือหลักฐานเพิ่มเติมมาอีกเลย จึงไม่ทราบว่าที่ พล.ท.โกศลระบุว่าได้พยายามประสานให้ผู้ร้องนำเอกสานมาเพิ่มเติมคืออะไร และยืนยันด้วยว่าไม่มีการซูเอี๋ยใดๆ แน่นอน เพราะเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) แม่ก็นำเอกสารทั้งหมดส่งมอบให้ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 9 ลำปาง และให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวทำให้สังคมออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ใช้เฟซบุ๊กในลำปาง ให้ความสนใจติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง เพื่อต้องการทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปหรือไม่

ซึ่งส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึง ผอ.โรงเรียนดังกล่าวอย่างหนัก ขณะที่ศิษย์เก่าของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ได้โพสต์ระบายความรู้สึกเสียดายภาพเก่าๆ ความทรงจำดีๆ ที่มีต่อโรงเรียน ต่อครูผู้สอนของโรงเรียนที่ตนเองเคยเรียนมา แต่ขณะนี้กลับมีเพียงบางคนที่ทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนป่นปี้เสียหาย พร้อมยืนยันว่าโรงเรียนยังคงเป็นสถาบันที่ดี แต่ที่เสียคือตัวบุคคลเท่านั้น

ขณะที่โรงเรียนอนุบาลที่ตกเป็นข่าวปัจจุบันได้มีการเข้มงวดการเข้า-ออกโรงเรียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสื่อมวลชน มีคำสั่งห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และเมื่อถึงเวลาเข้าห้องเรียนในช่วงเช้าทาง รปภ.ก็จะปิดประตูรั้วทันที ส่วนครูที่ต้องการออกจากโรงเรียนในช่วงเวลาราชการ ก็จะต้องเซ็นชื่อขอออกนอกรั้วโรงเรียนกันทุกคน













กำลังโหลดความคิดเห็น